เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลกยืนยันในวันจันทร์(13ม.ค.) พบรายแรกในไทย ผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในวงศ์เดียวกับซาร์ส ซึ่งเป็นต้นตอของโรคปอดอักเสบที่กำลังระบาดอยู่ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
หน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติแห่งนี้ระบุว่าบุคคลรายหนึ่งซึ่งเดินทางจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในไทย เมื่อวันที่ 8 มกราคม หลังเบื้องต้นถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคปอดอักเสบไม่รุนแรง
อย่างไรก็ตาม ทาริค เจซาเรวิค โฆษกขององค์การอนามัยโลกเปิดเผยกับเอเอฟพีผ่านอีเมลว่า "ผลตรวจจากห้องปฏิบัติการในเวลาต่อมา ยืนยันว่าโนเวล โคโรนาไวรัส(novel coronavirus) คือต้นตอของอาการป่วย"
องค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่าอาจมีการจัดประชุมฉุกเฉินเร็วๆนี้ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว
ผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวในไทยถือเป็นรายแรกนอกประเทศจีน ดินแดนที่จนถึงตอนนี้พบผู้ป่วยซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการต่างๆคล้ายคนปอดบวมติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในเมืองอู่ฮั่น แล้ว 41 คน และหนึ่งในนนั้นเสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว(9ม.ค.)
ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ก่อความตื่นตระหนัก สืบเนื่องจากเค้ารางแห่งความน่ากลัวของซาร์สหรือ Severe Acute Respiratory Syndrome: SARS (โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสในตระกูลโคโรนาไวรัส ) ซึ่งคร่าชีวิตผ้คนในจีนแผ่นดินใหญ่ 349 รายและอีก 299 คนในฮ่องกง ในปี 2002-2003 โดยเฉพาะฮ่องกงซึ่งเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของมันกระทบต่อการท่องเที่ยว
องค์การอนามัยโลกยืนยันว่าการแพร่ระบาดในจีนเป็นต้นตอจากไวรัสโคโรนาไม่ทราบชนิด ตระกูลไวรัสอันกว้างขวาง ไล่ตั้งแต่โรคหวัดไปจนถึงอาการป่วยที่รุนแรงมากกว่าอย่างซาร์ส
หน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติแห่งนี้เปิดเผยในวันจันทร์(13ม.ค.) ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของไทยว่าคนไข้รายนี้กำลังฟื้นตัวจากอาการป่วย พร้อมเน้นว่าพวกเขาไม่รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใดที่ไวรัสชนิดนี้จะแพร่ระบาดออกจากประเทศจีน
"เราไม่คาดหมายอยู่แล้วเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะระบุตัวผู้ติดเชื้อในประเทศอื่น และมันคือสิ่งที่ตอกย้ำว่าทำไมองค์การอนามัยโลกถึงเรียกร้องให้มีการเฝ้าระวังอย่างกระตือรือร้นอย่างต่อเนื่องและเตรียมความพร้อมในประเทศอื่นๆ" ถ้อยแถลงระบุ
องค์การอนามัยโลกบอกต่อว่าด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงออกคำแนะนำถึงวิธีการตรวจหาและรักษาผู้คนที่ล้มป่วยด้วยไวรัสพันธุ์ใหม่ และเน้นว่าการตัดสินใจของจีนในการแบ่งปันการหาลำดับเบสดีเอ็นเอ( genetic sequencing) จึงทำให้การวินิจฉัยโรคของผู้ป่วยนั้นมีความเป็นไปได้
จนถึงตอนนี้ทางองค์การอนามัยโลกยังไม่ออกคำแนะนำมาตรการพิเศษด้านการเดินทางหรือข้อจำกัดการค้ากับจีน แต่เน้นในวันจันทร์(13ม.ค.) ว่าพวกเขาจริงจังกับสถานการณ์ดังกล่าว