รอยเตอร์ – ไต้หวันส่งทีมกู้ภัยเร่งติดตามค้นหาผู้บัญชาการทหารระดับสูงซึ่งหายตัวไปพร้อมกับลูกเรืออีก 2 คน หลังเฮลิคอปเตอร์ที่พวกเขาโดยสารมาลงจอดฉุกเฉินในเขตเทือกเขาทางตอนเหนือใกล้กับกรุงไทเปเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (2 ม.ค.)
กระทรวงกลาโหมไต้หวันได้ส่งทีมค้นหาเข้าไปช่วยเหลือผู้โดยสารและนักบินรวม 13 คนบนเฮลิคอปเตอร์ ‘แบล็คฮอว์ก’ ซึ่งประสบอุบัติเหตุขณะลงจอดฉุกเฉิน โดยพบผู้รอดชีวิตแล้วหลายคน ทว่ายังคงมีผู้สูญหายอยู่อีก 3 คน รวมถึง พล.อ.อ. เสิ่น อี้หมิง (Shen Yi-ming) ผู้บัญชาการเหล่าทัพ
“ลูกเรือบางคนยังติดอยู่ในซากเฮลิคอปเตอร์ แต่หลายคนก็ออกมาได้แล้ว” โฆษกกองทัพระบุในงานแถลงข่าวซึ่งมีการถ่ายทอดสด ทว่ารายละเอียดอื่นๆ นั้นยังไม่ทราบจนกว่าทหารจะเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ
เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ลงจอดฉุกเฉินที่เมืองนิวไทเป หลังขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการบินเมื่อเวลา 8.22 น. ตามเวลาท้องถิ่น
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์ก่อนที่ไต้หวันจะมีการเลือกตั้งรัฐสภาและประธานาธิบดีในวันที่ 11 ม.ค.
ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ได้สั่งระงับกิจกรรมการหาเสียงในวันนี้ (2) และสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตลูกเรือให้ปลอดภัย
สหรัฐฯ ซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันแต่ถือเป็นพันธมิตรและซัพพลายเออร์อาวุธรายใหญ่ ได้จำหน่ายเฮลิคอปเตอร์ UH-60M Black Hawk จำนวน 60 ลำให้แก่ไทเปในปี 2010 ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าเครื่องที่ประสบอุบัติเหตุเป็นหนึ่งในจำนวนนี้หรือไม่
จีนถือว่าไต้หวันเป็นเพียงมณฑลทรยศที่จะต้องถูกนำกลับเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของปักกิ่งในสักวันหนึ่ง แม้จะต้องใช้กำลังก็ตาม และสถานะของเกาะไต้หวันถือเป็นประเด็นละเอียดอ่อนที่กระทบความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ มากที่สุด