เอเอฟพี - ผู้นำ คิม จองอึน ของเกาหลีเหนือ ประกาศยุติการพักทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีป และขู่ว่าจะแสดงให้เห็น “อาวุธยุทธศาสตร์ชิ้นใหม่”
นักวิเคราะห์หลายคน กล่าวว่า ประกาศดังกล่าว ตามรายงานโดยสื่อทางการวันพุธ (1) เท่ากับคิมวางขีปนาวุธบนหัวทรัมป์ แต่เตือนว่า การแสดงความก้าวร้าวของเปียงยางอาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ตรงกันข้าม
วอชิงตันออกมาตอบโต้ในทันที โดยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ไมค์ พอมเพโอ เรียกร้องให้คิม “เลือกหนทางอื่น” และเน้นย้ำว่า สหรัฐฯต้องการสันติภาพไม่ใช่การเผชิญหน้ากับเกาหลีเหนือ ในขณะที่ทรัมป์ไม่ค่อยให้ความสนใจกับพัฒนาการนี้
ก่อนหน้านี้ เปียงยางได้ยิงขีปนาวุธที่สามารถไปไกลถึงแผนดินใหญ่สหรัฐฯ และทำการทดสอบนิวเคลียร์ 6 ครั้ง ครั้งล่าสุดมีขนาดใหญ่กว่าระเบิดฮิโรชิมา 16 เท่า อ้างจากการประเมินสูงสุด
การพักการทดสอบดังกล่าว ซึ่งคิมประกาศไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว เป็นหัวใจของการทูตนิวเคลียร์ระหว่างเปียงยางและวอชิงตันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ได้เห็นการพบปะกัน 3 ครั้งระหว่างคิมและประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แต่แทบไม่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
การทดสอบจริงใดๆ ก็ตามน่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับทรัมป์ ซึ่งมักย้ำคำสัญญาที่คิมให้กับเขาว่าจะไม่ทดสอบมันอีก และมองข้ามการยิงอาวุธพิสัยใกล้มาโดยตลอด
การเจรจาระหว่างสองฝ่ายติดทางตันนับตั้งแต่ความล้มเหลวในการประชุมสุดยอดที่ฮานอยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และเกาหลีเหนือได้กำหนดเส้นตายสิ้นปีให้สหรัฐฯ ยื่นข้อเสนอใหม่ๆ ในการผ่อนคลายคว่ำบาตร มิเช่นนั้นพวกเขาจะเลือก “เส้นทางใหม่”
“ไม่มีเหตุผลที่เราจะต้องผูกมัดกับข้อตกลงนี้เพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไป” สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ระบุ โดยอ้างคำพูดของคิดต่อเจ้าหน้าที่พรรครัฐบาล
“ทั้งโลกจะได้เห็นอาวุธยุทธศาสตร์ชิ้นใหม่ของดีพีอาร์เคในอนาคตอันใกล้” เขากล่าวเสริม โดยเรียกเกาหลีเหนือด้วยชื่อย่ออย่างเป็นทางการ
การประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านนโยบายครั้งใหญ่
สถานีโทรทัศน์ทางการ เผยให้เห็น ผู้ประกาศข่าวอาวุโส รี ชุนฮี อ่านรายงานข่าวประกอบคลิปคิมกล่าวปราศรัยกับเจ้าหน้าที่และภาพรวมของประเทศ
การแพร่ภาพดังกล่าวดูเหมือนจะอยู่ในสถานที่เดียวกับการปราศรัยปีใหม่ของคิม ช่วงเวลาสำคัญในปฏิทินการเมืองของเกาหลีเหนือ
คิมยอมรับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของนานาชาติต่อเปียงยางจากโครงการอาวุธของตน แต่ชี้แจ้งว่า เกาหลีเหนือยินดีรับความเสียหายดังกล่าวเพื่อรักษาความสามารถด้านนิวเคลียร์เอาไว้