เอเอฟพี - คณะผู้แทนเกาหลีใต้ได้เข้าพบผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือเพื่อหารือแนวทางลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี สื่อทางการเปียงยางรายงานวันนี้ (6 มี.ค.)
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานว่า ผู้นำคิมให้การต้อนรับ “อย่างอบอุ่น” ต่อคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ ซึ่งนำจดหมายของประธานาธิบดี มุน แจอิน มามอบให้แก่เขาด้วย
“เมื่อได้ทราบจากคณะผู้แทนเกาหลีใต้ว่าประธานาธิบดี มุน แจอิน ก็มีความปรารถนาที่จะจัดการประชุมซัมมิต ท่านจึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และบรรลุข้อตกลงที่น่าพอใจ” สื่อโสมแดงระบุ
“ท่านยังแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางลดความตึงเครียดทางทหารบนคาบสมุทรเกาหลี ตลอดจนการพูดคุย ติดต่อ ร่วมมือ และแลกเปลี่ยนกันอย่างรอบด้าน”
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเกาหลีใต้ออกมายืนยันล่าสุดว่า ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงจัดการประชุมซัมมิตระหว่าง คิม และ มุน ซึ่งจะถือเป็นการพบปะครั้งแรกระหว่างผู้นำสองเกาหลีหลังจากที่ว่างเว้นไปตั้งแต่ปี 2007
เจ้าหน้าที่จากทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายได้ “หารือ” เรื่องดังกล่าว และ “มีความเห็นพ้องกันในบางประการ”
การพบปะระหว่างผู้นำคิมกับคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ชุดแรกที่ไปเยือนเกาหลีเหนือในรอบกว่า 10 ปีถือเป็นผลพวงล่าสุดจากกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์สองเกาหลีอบอุ่นขึ้น
การพูดคุยครั้งนี้กินเวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งรวมถึงงานเลี้ยงอาหารค่ำที่สำนักงานใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีในกรุงเปียงยาง ซึ่งรายละเอียดต่างๆ จะมีการแถลงให้สาธารณชนรับทราบหลังจากที่คณะผู้แทนเดินทางกลับเกาหลีใต้ในช่วงบ่ายวันนี้ (6)
คณะผู้แทนโสมขาวหวังว่าการไปเยือนเปียงยางครั้งนี้จะช่วยปูทางให้เกาหลีเหนือและสหรัฐฯ เปิดเจรจากันโดยตรง หลังจากผู้นำคิมได้ส่ง คิม โยจอง น้องสาวแท้ๆ ไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกที่เกาหลีใต้ และยังส่งจดหมายเชื้อเชิญ มุน ให้จัดประชุมซัมมิตร่วมกันครั้งแรกที่เปียงยาง
คิม โยจอง ถือเป็นสมาชิกในตระกูลผู้ปกครองเกาหลีเหนือคนแรกที่เดินทางเยือนเกาหลีใต้ในรอบเกือบ 70 ปี นับตั้งแต่สงครามเกาหลีสิ้นสุดลงในปี 1953 และการปรากฏตัวของเธอในพิธีเปิดโอลิมปิกก็กลายเป็นข่าวพาดหัวในสื่อทั่วโลก
เคซีเอ็นเออ้างถ้อยคำที่ผู้นำคิมกล่าวต่อคณะผู้แทนโสมขาวว่า โอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้ “ได้สร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับการปรองดอง ความเป็นเอกภาพ และการพูดคุยระหว่างเกาหลีเหนือและใต้”
ประธานาธิบดี มุน หวังจะใช้โอลิมปิกฤดูหนาวเป็นตัวกระตุ้นให้วอชิงตันและเปียงยางยอมพูดคุย เพื่อลดการเผชิญหน้าด้านนิวเคลียร์ที่กำลังสร้างความวิตกกังวลไปทั่วโลก
ก่อนที่จะออกเดินทางไปเปียงยาง ชุง อึยยอง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ ระบุว่า “เรามีแผนที่จะหารือเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางสานต่อการพูดคุย ไม่ใช่แค่ระหว่างสองเกาหลีเท่านั้น แต่รวมถึงการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือกับประชาคมโลก ซึ่งหมายถึงสหรัฐอเมริกาด้วย”
อย่างไรก็ตาม ภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ฝ่าฝืนมติของสหประชาชาติทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ที่มีอานุภาพร้ายแรงเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่แล้ว และยังงัดขีปนาวุธออกมายิงทดสอบหลายรุ่น ซึ่งบางรุ่นสามารถเดินทางไปถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ ได้
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เคยตั้งฉายาให้ คิม ว่า “มนุษย์จรวดน้อย” (Little Rocket Man) และโอ้อวดว่าตนมี "ปุ่มนิวเคลียร์" ขนาดใหญ่กว่า ขณะที่ผู้นำโสมแดงก็เรียก ทรัมป์ ว่าเป็น “ตาแก่เลอะเลือนที่สติไม่เต็มเต็ง” (mentally deranged US dotard)
สงครามน้ำลายระหว่างผู้นำทั้งสองทำให้คาบสมุทรเกาหลีร้อนระอุหนัก ก่อนจะสถานการณ์จะเริ่มเย็นลงในช่วงก่อนเปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว