xs
xsm
sm
md
lg

รบ.สิงคโปร์งัด “กฎหมายข่าวปลอม” สั่งฝ่ายค้านแก้ไขโพสต์เฟซบุ๊ก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ – รัฐบาลสิงคโปร์อ้างกฎหมายข่าวปลอมในวันเสาร์ (14) เพื่อสั่งพรรคฝ่ายค้านแก้ไขโพสต์สื่อสังคมออนไลน์ 2 โพสต์และบทความหนึ่งบนเว็บไซต์ของพรรคเกี่ยวกับการจ้างงานในประเทศ ถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการ เผย

นี่เป็นครั้งที่สามที่ทางการใช้กฎหมายฉบับนี้ที่มีชื่อว่า “กฎหมายป้องกันการหลอกลวงและการชักใยทางออนไลน์” (Protection from Online Falsehoods and Manipulation Act หรือ POFMA) นับตั้งแต่มันมีผลบังคับใช้เมื่อ 2 เดือนก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มันถูกใช้กับพรรคการเมือง

รัฐบาลสั่งให้พรรคประชาธิปไตยสิงคโปร์ (Singapore Democratic Party หรือเอสดีพี) ทำการแก้ไขโพสต์เฟซบุ๊ก 2 โพสต์บนเพจของพรรค รวมทั้งบทความบนเว็บไซต์พรรคเกี่ยวกับตลาดแรงงานของนครรัฐแห่งนี้

บทความดังกล่าว ระบุว่า สัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของผู้เชี่ยวชาญ ผู้จัดการ ผู้บริหาร และช่างเทคนิค (ที่เรียกกันว่า PMETs) กำลังทำให้งานเหล่านี้ลดน้อยลง

บทความดังกล่าวถูกโต้แย้งโดยกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ ที่ระบุว่า การจ้างงานกลุ่ม PMETs เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2015

ในคำสั่งแก้ไข ถ้อยแถลงรัฐบาล ระบุว่า โพสต์และบทความดังกล่าวจะต้องมีคำเตือนว่า มันมี “เนื้อหาชี้นำในทางที่ผิดและคำบรรยายไม่ตรงกับข้อเท็จจริง”


พรรคเอสดีพีที่ไม่ได้มีที่นั่งในสภาเลย ระบุว่า พวกเขากำลังตรวจสอบคำสั่งดังกล่าว และจนถึงเวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โพสต์และบทความดังกล่าวก็ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง

บรรดากลุ่มสิทธิเตือนว่า กฎหมายข่าวปลอมนี้อาจปิดกั้นเสรีภาพในการพูด และนักการเมืองฝ่ายค้านหลายคน กล่าวว่า มันอาจให้อำนาจรัฐบาลมากเกินไป ในขณะที่การเลือกตั้งใกล้เข้ามา

รัฐบาล ระบุว่า นครรัฐแห่งนี้อ่อนไหวต่อข่าวที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและไม่ถูกต้อง เนื่องจากมีสถานะศูนย์กลางการเงินโลก มีประชากรหลากเชื้อชาติและศาสนา และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย

สิงคโปร์ ซึ่งถูกปกครองโดยพรรคกิจประชาชนนับตั้งแต่ได้รับเอกราชเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว คาดว่าจะจัดการเลือกตั้งภายในไม่กี่เดือนนี้

ในกรณีแรกของการใช้กฎหมายข่าวปลอม นักการเมืองฝ่ายค้าน แบรด โบเยอร์ ปฏิบัติตามคำเตือนแก้ไขเมื่อเดือนที่แล้วโดยทันที

ในกรณีที่สอง บริษัท เฟซบุ๊ก ออกคำเตือนแก้ไขบนโพสต์ของผู้ใช้รายหนึ่งตามคำขอของรัฐบาลสิงคโปร์ ภายหลังผู้ใช้รายดังกล่าวปฏิเสธทำตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น