บีบีซี - เทสโก้ ผู้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษ กำลังพิจารณาถอนตัวออกจากตลาดเอเชีย ด้วยการขายกิจการที่ทำกำไรในไทยและมาเลเซีย ตามรายงานของสำนักข่าวบีบีซีในวันจันทร์(9ธ.ค.)
ทางบริษัทเปิดเผยว่ากำลังอยู่ระหว่างทบทวนขายสาขาต่างๆในไทยและมาเลเซีย หลังได้รับความสนใจจากผู้ที่อาจยื่อข้อเสนอซื้อ ทั้งนี้ในถ้อยแถลง เทสโก้ ระบุเพียงว่าธุรกิจของพวกเขาได้รับความสนใจ อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเผยชื่อผู้ติดต่อทาบทาม
กระนั้นก็ดี เทสโก้ ชี้แจงว่าการพิจารณายังอยู่ในขั้นต้นๆ และยังไม่มีการตัดสินใจใดๆเกี่ยวกับอนาคตของเทสโก้ประเทศไทยหรือเทสโก้มาเลเซีย
พวกนักวิเคราะห์มองว่าเทสโก้ ซึ่งมีสาขาในไทยและมาเลเซีย ประกอบกิจการภายใต้แบรนด์ "เทสโก้โลตัส" รวมกันราว 2,000 แห่ง น่าจะมีมูลค่ารวมกันมากกว่า 7,000 ล้านปอนด์(มากกว่า 278,950ล้านบาท)
ส่วนกิจการในต่างแดนอื่นๆนอกเหนือจากไทยและมาเลเซียแล้ว เทสโก้มีสาขาเพียงแค่ในไอร์แลนด์และในยุโรปกลาง ในนั้นรวมถึงโปแลนด์และฮังการี
ทั้งนี้ เทสโก มีพนักงานอยู่ทั้งหมดราวๆ 60,000 คน
คลิฟ แบล็ค นักวิเคราะห์จากชอร์แคปิตอล ให้ความเห็นว่ากิจการในเอเชีย ซึ่งทำรายได้รวมกัน 4,900 ล้านปอนด์ ถือเป็นสินทรัพย์แห่งรางวัล และน่าจะบรรลุเป้าหมายขายได้ในราคาที่ตั้งเป้าไว้
ขณะที่ บรูโน มอนเตย์เน นักวิเคราะห์จากสถาบันเบิร์นสเตน ระบุว่า "มูลค่าราว 6,500 ล้านปอนด์ ถึง 7,200 ล้านปอนด์ ดูเป็นราคาที่ยุติธรรม"
ลอรา แลมบี ผู้อำนวยการด้านการลงทุนอาวุโสของอิสเวสเทค เวลท์ แอนด์ อินเวสต์เมนต์ กล่าวกับรายการทูเดย์ของบีบีซี ว่าไทยเป็นตลาดที่สำคัญของเทสโก้ โดยในขณที่ เทสโก้ ได้ถอนตัวจากตลาดอื่นๆที่โตเต็มที่แล้ว อย่างเช่นสหรัฐฯ, ญี่ปุ่นและตุรกี แต่เมื่อเร็วๆนี้พวกเขาเพิ่งแถลงเปิดสาขาเพิ่มเติมอีก 750 แห่งในไทย
เธอบอกอีกว่านอกจากนี้แล้วผลกำไรในไทยก็สูงเช่นกัน อยู่ที่ 6% เมื่อเทียบกับในสหราชอาณาจักรที่ทำกำไร 3% พร้อมระบุว่า "จะมีการตั้งราคาขายที่สูงพอควร เพื่อที่เทสโก้จะพร้อมยอมปล่อยมันไป"
ถ้อยแถลงล่าสุดนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณอีกครั้งว่าเทสโก้อาจกำลังถอนตัวจากแนวทางขยายกิจการไปทั่วโลก ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นความทะเยอทะยานของบริษัท
ทั้งนี้เทสโก้เดินหน้าแผนขายกิจการจริง นั่นเท่ากับว่าบริษัทค้าปลีกแห่งนี้จะเหลือสาขาเพียงแค่สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์เท่านั้น เช่นเดียวกับธุรกิจในยุโรปกลาง ซึ่งครอบคลุมประเทศต่างๆประกอบด้วยสาธารรัฐเช็ก, ฮังการี, โปแลนด์และสโลวาเกีย แต่ทั้งหมดต่างอยู่ในภาวะขาดทุน
การเบี่ยงเป้าสนใจของ เทสโก้ เป็นส่วนหนึ่งในโครงการพลิกฟื้นธุกิจที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 5 ปีก่อน โดยแผนดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อประะเด็นอื้อฉาวด้านบัญชี และมีขึ้นตามหลังการแข่งขันอันดุเดือดจากบรรดาเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตคู่แข่งและคู่แข่งทางออนไลน์
ก่อนหน้านี้กลุ่มเทสโก้ ได้ขายกิจการหลายแห่งทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อนำไปชำระหนี้และผยุงผลประกอบการที่ย่ำแย่ในอังกฤษให้ดีขึ้น และหากขายกิจการในไทยและมาเลเซียสำเร็จ ก็จะถือเป็นการปิดฉากธุรกิจในเอเชียไปด้วย
เทสโก้ถอนตัวจากสหรัฐฯ, ญี่ปุ่นและจีน และในปี 2015 ได้ขยายกิจการในเกาหลีใต้ เป็นเงิน 6,100 ล้านปอนด์ จากนั้นอีก 1 ปีต่อมาได้ ก็ได้ขายกิจการบริษัทคิปา(Kipa) ของพวกเขาในตุรกี ขณะที่บริษัทแห่งนี้ถือเป็นเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ที่สุดของตุรกี
นอกจากนี้แล้วเทสโก้ยังขายสินทรัพย์ต่างๆของพวกเขาในสหราชอาณาจักร แล้วหันไปมุ่งเน้นธุรกิจของชำที่เป็นแกนหลักของพวกเขา โดยในปี 2016 เทสโก้ขายเครือข่ายร้านอาหาร Giraffe ออกไป หรือเพียง 3 ปีหลังจากทุ่มเงินซื้อมันมาในราคา 49 ล้านปอนด์
ในเดือนตุลาคมปีนี้ เดฟ ลูอิส ซีอีโอของเทสโก้ สร้างความประหลาดใจแก่นักลงทุนด้วยบอกว่าเขาจะลงจากตำแหน่งในฤดูร้อนปี 2020 หลังจากเข้ามารับงานที่บริษัทแห่งนี้ในปี 2014 หรือไม่นานหลังจากเทสโก้ถูกเปิดโปงว่าแจ้งกำไรเกินความเป็นจริง
