xs
xsm
sm
md
lg

ประธานสภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ สั่งเดินหน้าร่าง “บทบัญญัติถอดถอน” แต่ทรัมป์กร้าวจะเป็นฝ่ายชนะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แนนซี โปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต แถลงข่าวที่รัฐสภาในวันพฤหัสบดี (5 ธ.ค.) ว่าเธอให้สั่งให้แกนนำในสภาคองเกรสร่างบทบัญญัติแห่งการถอดถอน (Article of Impeachment) โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่ากระบวนการถอดถอนอย่างเป็นรูปธรรมต่อประธานธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ ได้เริ่มขึ้นแล้ว
เอเอฟพี - แนนซี โปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต บอกกับเหล่าแกนนำในสภาคองเกรสในวันพฤหัสบดี (5 ธ.ค.) ให้ร่างบทบัญญัติแห่งการถอดถอน (Article of Impeachment) โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุการใช้อำนาจประธานาธิบดีโดยมิชอบ “ทำให้เราไม่มีทางเลือก”

จากการขอให้ประธานคณะกรรมาธิการด้านกระบวนการยุติธรรมสภาผู้แทนราษฎร ร่างข้อกล่าวหาต่างๆ ที่จะเอาผิดกับทรัมป์ เท่ากับว่าผู้นำของพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสรายนี้ ส่งสัญญาณว่ากระบวนการถอดถอนอย่างเป็นรูปธรรมต่อประธานธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯได้เริ่มขึ้นแล้ว

ด้วยเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ได้แสดงถึงความตั้งใจสนับสนุนกระบวนการที่จะเต็มไปด้วยความแตกแยกรุนแรงดังกล่าว นั่นจึงดูเหมือนว่าทรัมป์จะกลายเป็นเพียงประธานาธิบดีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯที่จะถูกลงมติถอดถอนโดยสภาผู้แทนราษฎร

"มันน่าเศร้า แต่ด้วยความเชื่อมั่น ความนอบน้อม ความภักดีต่อผู้ก่อตั้งของเราและต่อจิตใจที่เต็มไปด้วยความรักที่มอบให้แด่อเมริกา วันนี้ ดิฉันขอให้ประธานเดินหน้าบทบัญญัติแห่งการถอดถอน" เปโลซีกล่าวในถ้อยแถลงสั้นๆ "ทรัมป์ใช้อำนาจโดยมิชอบ บ่อนทำลายความมั่นคงแห่งชาติและกัดกร่อนความซื่อตรงในศึกเลือกตั้งของเรา ประธานาธิบดีทำให้เราไม่มีทางเลือก ยกเว้นแต่ต้องดำเนินการ"

เปโลซี ไม่ได้แถลงเกี่ยวกับข้อกล่าวหาต่างๆที่จะเอาผิดกับทรัมป์ แต่ประธานาธิบดีรายนี้อาจเผชิญกับข้อกล่าวหาใช้อำนาจโดยมิชอบ, ขัดขวางสภาคองเกรส และขัดขวางกระบวนการยุติธรรม

เธอกล่าวว่า "ประธานาธิบดีรายนี้ใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง ด้วยการระงับเงินช่วยเหลือทางทหารที่มอบแก่ยูเครน" และมีการประชุมที่ทำเนียบขาว ยื่นข้อเสนอของคำสัญญาจากเคียฟว่าจะดำเนินการสืบสวน โจ ไบเดน คู่แข่งของทรัมป์เป็นข้อแลกเปลี่ยน "ถ้าเราปล่อยให้ประธานาธิบดีอยู่เหนือกฎหมาย นั่นเท่ากับว่าเราปล่อยให้สหพันธ์สาธารณรัฐของเราตกอยู่ในอันตราย"

อย่างไรก็ตามทาง ทรัมป์ ดูไม่ยี่หระต่อความคืบหน้าล่าสุด โดยเย้ยหยันพรรคเดโมแครตกลับว่า หากเดโมแครตต้องการถอดถอนเขา พวกเขาก็ควรเดินหน้าเสียตอนนี้ เพื่อที่เขาจะได้เผชิญกับการพิจารณาที่ยุติธรรมในวุฒิสภา ซึ่งพรรครีพับลิกันของเขาครองเสียงข้างมากอยู่

ทรัมป์ เขียนบนทวิตเตอร์ต่อไปอีกว่าเดโมแครตกำลังหาทางถอดถอนเขาจากเรื่องที่ไม่มีอะไรเลย "สิ่งดีๆก็คือรีพับลิกันไม่เคยเป็นอันหนึ่งเดียวกันเช่นนี้มาก่อน เราจะชนะ!"

คาดหมายว่ากระบวนการถอดถอนจะเดินหน้าอย่างรวดเร็ว ด้วยมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการยื่นบทบัญญัติแห่งการถอดถอนให้สภาคองเกรสเต็มคณะลงมติในช่วงกลางเดือนนี้ ราวๆ วันที่ 12 ธันวาคม หลังจากดำเนินการพิจารณาไต่สวนมานานหลายสัปดาห์

"หากพวกคุณต้องการถอดถอนผม ทำมันเลยตอนนี้ เร็วๆ เลย เพื่อเราจะได้มีการพิจารณากันอย่างยุติธรรมในวุฒิสภา และเพื่อประเทศของเราจะทำธุระปะปังอย่างอื่นได้เสียที" ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์

ด้านทีมหาเสียงของทรัมป์ ก็เข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้เช่นกัน โดยบอกว่าพวกเดโมแครตพยายามผลักดันการถอดถอนมาช้านาน เพื่อหาทางกลบเกลื่อนผลเลือกตั้งปี 2016

เมื่อวันพุธ (4 ธ.ค.) พวกนักวิชาการด้านรัฐธรรมนูญบอกกับคณะกรรมาธิการด้านกระบวนการยุติธรรมสภาผู้แทนราษฎร ว่าพฤติกรรมของประธานาธิบดีที่หาทางให้ต่างชาติเข้าแทรกแซงศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ นั้นเป็นเหตุผลที่ชัดเจนสำหรับการถอดถอน

ในขณะที่ สตีฟ โคเฮน หนึ่งในคณะกรรมาธิการฯ จากพรรคเดโมแครต กล่าวว่าแน่นอนว่าบทบัญญัติแห่งการถอดถอนจะรวมถึงข้อกล่าวหาใช้อำนาจโดยมิชอบและขัดขวางสภาคองเกรส "และเป็นไปได้ที่จะมีข้อกล่าวหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรมด้วย"

กระนั้นก็ตาม ความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะพ่ายแพ้ในมติถอดถอนมีไม่มากนัก เนื่องจากสมาชิกรีพับลิกันในสภาคองเกรสดูท่ามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการคัดค้านกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดี

ผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ พบว่า ชาวอเมริกันมีความเห็นแตกแยกกันราวครึ่งๆ เกี่ยวกับกระบวนการถอนถอนและการถอดถอนทรัมป์พ้นจากตำแหน่ง โดยโพลที่จัดทำโดย FiveThirtyEight.com พบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถาม 46.8% ที่สนับสนุนการถอดถอน ส่วนที่ไม่เห็นด้วยมี 44.5%
กำลังโหลดความคิดเห็น