เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นเปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 13 ล้านล้านเยน (ราว 3.6 ล้านล้านบาท) ในวันพฤหัสบดี (5) เพื่อช่วยเศรษฐกิจใหญ่อันดับสามของโลกก้าวพ้นผลพวงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติเมื่อไม่นานมานี้
แผนดังกล่าวยังมีจุดประสงค์เพื่อช่วยประเทศนี้บรรเทาผลกระทบจากการขึ้นภาษีเมื่อเดือนที่แล้วและเอาตัวรอดจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหลังการแข่งขันโอลิมปิก
.”เราจะเสนอนโยบายการเงินอันกล้าหาญมูลค่า 13 ล้านล้านเยน” อาเบะ บอกคณะรัฐมนตรีและผู้นำพรรคที่สำนักงานนายกรัฐมนตรี
“เราได้จัดทำแผนนโยบายที่มีประสิทธิภาพสูง” อาเบะ กล่าวเสริม
แผนดังกล่าวที่คาดว่าจะได้รับการรับรองในการประชุมรัฐมนตรีภายในวันพฤหัสบดี (5) มีมูลค่าทั้งหมดประมาณ 26 ล้านล้านเยน หากนับรวมภาคเอกชนเข้าไปด้วย อ้างจากสถานีโทรทัศน์สาธารณะ เอ็นเอชเค และสื่อท้องถิ่นอื่นๆ
ภายใต้แผนการดังกล่าว รัฐบาลจะใช้เงินประมาณ 6 ล้านล้านเยนกับการลงทุนสาธารณะ หลังจากเผชิญภัยพิบัติธรรมชาติหลายครั้ง รวมถึงไต้ฝุ่งฮากิบิส สร้างความเสียหายมหาศาลต่อโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ สื่อท้องถิ่น ระบุ
ในปีนี้ เศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังขยายตัวอยู่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอุปสงค์ที่เข้มแข็งจากการเตรียมตัวจัดการแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคมปีหน้า นักวิเคราะห์บางส่วนเตือนว่าญี่ปุ่นอาจภาวะตกต่ำหลังโอลิมปิก
แผนนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการขึ้นภาษีโภคภัณฑ์จาก 8 เปอร์เซ็นต์เป็น 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม และช่วยบริษัทญี่ปุ่นเตรียมตัวสำหรับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เนื่องจากข้อพิพาทการค้าสหรัฐฯ-จีน ตลาดโตเกียวเองก็ต้อนรับแผนการนี้
“โดยเฉพาะ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับแผนกระตุ้น เช่น บริษัทก่อสร้างที่ได้รับผลประโยชน์จากประกาศนี้” โตชิคาสุ โฮริอุชิ นายหน้าบริษัท IwaiCosmo Securities บอกเอเอฟพี
อย่างไรก็ตาม ยูสุเกะ ชิโมดะ นักเศรษฐศาสตร์ที่สถาบันวิจัยญี่ปุ่น (Japan Research Institute) เตือนว่า ผลกระทบของแพ็กเกจนี้อาจมีขอบเขตจำกัด
“แผนการนี้น่าจะกระตุ้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน แต่ไม่น่าจะช่วยปฏิรูปเศรษฐกิจที่เติบโต้เชื่องช้าของประเทศโดยพื้นฐาน” ชิโมดะ กล่าว
แผนนโยบายนี้ยังจะรวมถึงมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลที่จะช่วยขยายการส่งออกสินค้าเกษตร ในขณะที่ข้อตกลงการค้าสองฝ่ายระหว่างโตเกียวและวอชิงตันจะมีผลในปีนหน้า เกียวโดนิวส์ ระบุ
นอกจากนั้น รัฐบาลก็จะช่วยคนในช่วงวัย 30 และ 40 ปีที่ประสบปัญหาในการหางาน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ผ่านมา ได้มีงานทำ เกียวโดนิวส์ ระบุ
