รอยเตอร์ – จีน ระบุในวันจันทร์ (2) ว่า เรือและเครื่องบินทหารของสหรัฐฯ จะไม่ได้รับอนุญาตให้มาเยือนฮ่องกง และยังประกาศคว่ำบาตรองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรหลายกลุ่มของสหรัฐฯ ฐานยุยงให้ผู้ประท้วง “แสดงพฤตกรรมสุดโต่ง รุนแรง และผิดกฎหมาย”
มาตรการดังกล่าวถูกประกาศโดยกระทรวงการต่างประเทศของจีนในการตอบสนองต่อการผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งในสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อสนับสนุนผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล กระทรวงฯ ระบุว่า พวกเขาได้ระงับการรับคำขอเยือนทางทหารของสหรัฐฯ และเตือนว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมอีก
“เราเรียกร้องให้สหรัฐฯ แก้ไขความผิดพลาดและหยุดแทรกแซงกิจการภายในของเรา หากจำเป็นจีนจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อรักษาเสถียรภาพและบูรณภาพของฮ่องกง และอำนาจอธิปไตยของจีน” หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในการแถลงข่าวที่ปักกิ่ง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จีนรับปากว่า พวกเขาจะออก “มาตรการตอบโต้ที่หนักแน่น” หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามกฎหมาย “สิทธิและประชาธิปไตยในฮ่องกง” (Hong Kong Human Rights and Democracy Act) ซึ่งสนับสนุนผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลและขู่จีนด้วยการคว่ำบาตร
มีความกลัวกันว่า ความขัดแย้งเกี่ยวกับฮ่องกงอาจส่งผลกระทบต่อความพยายามของปักกิ่งและวอชิงตันที่จะบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นที่อาจบรรเทาสงครามการค้ายืดเยื้อระหว่างสองประเทศ
กลุ่มเอ็นจีโอที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ และตกเป็นเป้าของปักกิ่งครั้งนี้ได้แก่ กองทุนเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Endowment for Democracy หรือ NED) , สถาบันส่งเสริมประชาธิปไตยแห่งชาติเพื่อการต่างประเทศ. (National Democratic Institute for International Affairs) , สถาบันรีพับลิกันระหว่างประเทศ (International Republican Institute) , ฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) และฟรีด้อมเฮาส์ (Freedom House)
“พวกเขามีส่วนรับผิดชอบความโกลาหลในฮ่องกงและพวกเขาควรถูกคว่ำบาตรและรับผลที่ตามมา” หวา กล่าว
ในช่วงเวลาปกติกว่านี้ ทุกๆ ปีจะมีเรือรบสหรัฐฯ หลายลำมาเยือนฮ่องกง ธรรมเนียมการพักผ่อนและสันทนาการที่มีมาตั้งแต่ยุคอาณานิคมก่อนปี 1997 ซึ่งปักกิ่งอนุญาตให้สานต่อหลังอังกฤษส่งมอบเกาะนี้ให้กับจีน ในบางครั้งการเยือนก็ถูกปฏิเสธท่ามกลางความตึงเครียดและเมื่อเดือนสิงหาคม เรือสหรัฐฯ สองลำก็ถูกปฏิเสธไม่ให้เทียบท่าเช่นกัน
เรือยูเอสเอส บลูริดจ์ เรือบัญชาการของกองเรือที่ 7 ในญี่ปุ่น เทียบท่าในฮ่องกงเมื่อเดือนเมษายน เรือลำสุดท้ายที่มาเยือนก่อนการประท้วงปะทุในเดือนมิถุนายน
กลุ่มเอ็นจีโอต่างชาติถูกควบคุมอย่างหนักมากอยู่แล้วในจีน และเคยถูกต่อว่าหลายครั้งฐานออกรายงานเกี่ยวกับประเด็นสิทธิต่างๆ ในประเทศนี้ รวมถึงการกักขังชาวมุสลิมอุยกูร์ในซินเจียง