รอยเตอร์ - รัฐบาลมาเลเซียสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนมหกรรมแสดงรอยสักและประกวดรอยสักนานาชาติซึ่งจัดขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ หลังชาวเน็ตพากันแชร์ภาพชายและหญิงที่สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นและมีรอยสักทั่วตัว จนเกิดกระแสวิจารณ์เรื่องความไม่เหมาะสมในประเทศซึ่งคนส่วนใหญ่นับถืออิสลาม
เว็บไซต์ของผู้จัดงานระบุว่า มหกรรมแสดงรอยสักและประกวดรอยสักนานาชาติ (Tattoo Malaysia Expo) ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรมแห่งมาเลเซีย และมีผู้เข้าร่วมจาก 35 ประเทศทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการท่องเที่ยวมาเลเซียชี้แจงว่า รูปแบบของงานในปีนี้ถือว่า “ฝ่าฝืนมาตรฐาน” เป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มมีการจัดงานขึ้นในปี 2015 พร้อมยืนยันจะมีบทลงโทษต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
ภาพซึ่งเผยแพร่ในสื่อมาเลเซียได้มีการเบลอ “ของสงวน” ของชายและหญิงที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
“เป็นไปไม่ได้เลยที่กระทรวงจะอนุมัติให้จัดกิจกรรมซึ่งมีลักษณะลามกอนาจารเช่นนี้ เพราะมันไม่ใช่วัฒนธรรมของมาเลเซีย อีกทั้งชาวมาเลเซียส่วนใหญ่ก็เป็นมุสลิม” โมฮัมหมัดดิน เกอตาปี รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรมแห่งมาเลเซีย ระบุในถ้อยแถลงวันนี้ (2 ธ.ค.)
“เราจะรอผลสอบอย่างเป็นทางการเสียก่อน และจะดำเนินการทางกฎหมายโดยไม่ลังเล หากพบว่าผู้จัดงานฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้”
คาร์ลอส เบนนี มาจาคิล หนึ่งในคณะผู้จัดงาน ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับรอยเตอร์ในประเด็นนี้
ทางการเสือเหลืองเริ่มหันมาใช้นโยบายอนุรักษนิยมเชิงวัฒนธรรมมากขึ้น ตัวอย่างเช่นเมื่อเดือน ต.ค. ศาลศาสนาของมาเลเซียก็ได้ตัดสินจำคุก เฆี่ยน และปรับเงินผู้ต้องหาชาย 5 คนในความผิดฐานรักร่วมเพศ และก่อนหน้านั้นในเดือน ก.ย. ปี 2018 ก็มีหญิง 2 คนในรัฐตรังกานูถูกสั่งเฆี่ยนฐาน “พยายามมีเซ็กซ์แบบเลสเบี้ยน”