เอเอฟพี/ซีเอ็นบีซี - เจ้าหน้าที่สหรัฐฯต้องปิดการเข้าออกทำเนียบขาวและอาคารรัฐสภาในตอนเช้าวันอังคาร (26 พ.ย.) พร้อมกับส่งฝูงบินขับไล่ขึ้นสู่ท้องฟ้า หลังพบเครื่องบินที่ไม่ได้รับอนุญาตลำหนึ่งบินเข้าสู่น่านฟ้าหวงห้ามเหนือกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
หน่วยสืบราชการลับ (Secret Service agents) ออกประกาศปิดการเข้าออก โดยอ้างคำสั่ง shelter in place (ให้หลบภัยในสถานที่ที่ตัวเองอยู่ในขณะนั้น) หลังจากหอควบคุมการบินขาดการติดต่อกับเครื่องบินลำดังกล่าว จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวตำรวจรัฐสภา อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายนี้ไม่ทราบว่าเครื่องบินชนิดใดที่เป็นต้นตอของการแจ้งเตือนครั้งนี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ฝูงบินรบทะยานขึ้นจากฐานทัพอากาศแอนดรูว์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักและมีหน้าที่รับผิดชอบบริหารจัดการการจราจรของเครื่องบินประธานาธิบดี “แอร์ฟอร์ซวัน”
กองบัญชาการป้องกันอวกาศอเมริกาเหนือ(NORAD) ระบุในว่าฝูงบินกำลังมุ่งหน้าสู่จุดเกิดเหตุและตอบสนองต่อสถานการณ์ อย่างไรก็ตามพวกเขาบอกว่า “ณ ขณะนี้ เครื่องบินซึ่งถูกกล่าวอ้างว่าละเมิดน่านฟ้าของเมืองหลวงสหนัฐฯ ยังไม่ถูกพิจารณาว่าเป็นศัตรู”
รายงานข่าวระบุว่า พวกคนงานก่อสร้างซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรุงรั้วทำเนียบขาวได้รับแจ้งให้ออกจากพื้นที่โดยด่วนตอนราวๆ 08.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ในขณะที่ทำเนียบขาวอยู่ภายใต้การคำสั่งปิดการเข้าออก
ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งอ้างว่า พบเห็นความเคลื่อนไหวที่บริเวณฐานยิงขีปนาวุธแท่นหนึ่งใกล้อาคารรัฐสภา จุดที่อยู่ภายใต้คำสั่งปิดการเข้าออกเช่นกัน ขณะเดียวกันบรรดาพวกผู้สื่อข่าวที่อยู่ภายในห้องแถลงข่าว ได้รับคำแนะนำให้อยู่แต่ภายในห้องและมีการล็อคประตูจากภายนอก
คนงานก่อสร้างรายหนึ่งเปิดเผยกับเดลีเมล์ว่า เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับในชุดเครื่องแบบรายหนึ่งซึ่งกำลังลาดตระเวนอยู่ซีกตะวันออกของทำเนียบขาวบอกว่า “ให้ทุกคนออกไป มีคำสั่ง shelter in place” ส่วนอีกคนยืนยันว่า “มีสถานการณ์ฉุกเฉินภายใน เราต้องการให้คุณไปหลบภัยตรงนั้น” พร้อมกับชี้ไปฝั่งตรงข้ามถนนหมายเลข 17
อนึ่ง วอชิงตันอยู่ภายใต้ข้อจำกัดการใช้น่านฟ้าอย่างเข้มข้นมาตั้งแต่เหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 กลุ่มอิสลามหัวรุนแรงอัลกออิดะห์จี้เครื่องบินโดยสารโจมตีทั้งในนิวยอร์ก และวอชิงตัน