เอเอฟพี – คนขับรถชาวอังกฤษซึ่งโดนข้อหาฆ่าคนตายหลังมีการพบศพชาวเวียดนาม 39 คนอยู่ท้ายรถบรรทุกห้องเย็น ยอมรับสารภาพข้อหาสมคบคิดช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายเมื่อวานนี้ (25 พ.ย.)
มอริซ โรบินสัน คนขับรถบรรทุกวัย 25 ปีซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำความมั่นคงสูงเบลมาร์ช ได้ให้การต่อศาลอาญากลางกรุงลอนดอนผ่านระบบวิดีโอลิงค์ โดยรับสารภาพใน 2 ข้อหาจากทั้งหมด 43 ข้อหาที่ถูกแจ้งความเอาผิด
ร่างไร้วิญญาณของหญิง 8 คน และชาย 31 คน ถูกพบอยู่ท้ายรถบรรทุกห้องเย็นซึ่งจอดอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมทางตะวันออกของกรุงลอนดอนเมื่อเวลาเช้าตรู่ของวันที่ 23 ต.ค. โดยตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวถูกส่งขึ้นเรือมาจากเมืองซีบรูกก์ (Zeebrugge) ในเบลเยียม
โรบินสัน ซึ่งเป็นชาวไอร์แลนด์เหนือถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาท 39 กระทง, สมคบคิดลักลอบพาคนเข้าเมือง, สมคบคิดช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมาย และฟอกเงิน
หนุ่มโชเฟอร์รายนี้รับสารภาพว่าได้สมคบกับพวก “กระทำการช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมาย” และ “รับเงินซึ่งได้มาจากการก่ออาชญากรรม”
ทั้งนี้ ผู้พิพากษา แอนดรูว์ เอียดิส ยังคงสั่งห้ามเปิดเผยชื่อบุคคลที่ โรบินสัน อ้างว่าเป็นผู้ร่วมกระทำผิด ขณะที่ โรบินสัน ไม่ได้ให้การรับสารภาพในข้อหาอื่นๆ และมีกำหนดขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 13 ธ.ค.
คริสโตเฟอร์ เคนเนดี โชเฟอร์รถบรรทุกจากไอร์แลนด์เหนืออีกคน ถูกออกหมายเรียกให้ไปขึ้นศาล ‘โอลด์ ไบลีย์’ อีกครั้งในวันที่ 13 ธ.ค. เช่นกัน โดยหนุ่มวัย 23 ปีถูกตั้งข้อหาสมคบคิดอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้อื่นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์
ค่ำวานนี้ (25) ตำรวจอังกฤษได้แถลงจับกุมชายอายุ 36 ปี ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัย “ฆ่าคนตาย, สมคบคิดลักลอบพาคนเข้าเมือง และสมคบคิดช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมาย” โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำ
ผลพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลยืนยันว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดล้วนมาจากเวียดนาม ซึ่งรวมถึงวัยรุ่นชาย 2 คนที่อายุเพียง 15 ปี
หน่วยกู้ภัยได้รับแจ้งว่าพบศพจำนวนมากในตู้คอนเทนเนอร์ของรถบรรทุกห้องเย็นในนิคมอุตสาหกรรมเมืองเกรย์ มณฑลเอสเซ็กซ์ ซึ่งอยู่ห่างจากลอนดอนไปทางตะวันออกราว 32 กิโลเมตร
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เดินทางมาจากภูมิภาคยากจนทางตอนกลางของเวียดนาม ซึ่งประชากรมีรายได้หลักจากการทำประมง เกษตรกรรม หรือทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม
ชาวเวียดนามหลายครอบครัวยอมกู้หนี้ยืมสินเพื่อส่งลูกหลานมาทำงานในอังกฤษ โดยหวังว่าพวกเขาจะได้งานดีๆ และส่งเงินกลับบ้านมาใช้หนี้ได้
คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายในอังกฤษ ซึ่งมักจะพบแรงงานเวียดนามเข้ามาเป็นลูกจ้างร้านทำเล็บ หรือทำฟาร์มกัญชาผิดกฎหมาย