รอยเตอร์ - ทีมกฎหมายของหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ยื่นคำร้องต่อศาลแคนาดา ขอให้ระงับกระบวนการพิจารณาส่งตัว เมิ่ง หว่านโจว ประธานคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปสหรัฐฯ “ในทันที” เนื่องจากไม่เข้าเกณฑ์ความผิดตามกฎหมายของทั้งสองประเทศ (double criminality)
เบนจามิน เฮาเวส โฆษกหัวเว่ย ระบุในถ้อยแถลงผ่านอีเมลวานนี้ (20 พ.ย.) ว่า บริษัทเชื่อว่าคำขอส่งตัว เมิ่ง เป็นผู้ร้ายข้ามแดนนั้นไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดที่ว่าด้วย double criminality ซึ่งหมายถึงผู้ต้องหาจะต้องกระทำความผิดที่สามารถลงโทษได้ทั้งตามกฎหมายของประเทศผู้ร้องขอ และประเทศผู้รับคำร้องขอ
เมิ่ง วัย 47 ปี ซึ่งเป็นทั้งซีเอฟโอและบุตรสาวของผู้ก่อตั้งหัวเว่ย ถูกจับที่สนามบินแวนคูเวอร์เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ปีที่แล้วตามการร้องขอของสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ตั้งข้อหาเอาผิด เมิ่ง ฐานหลอกลวงธนาคาร HSBC เกี่ยวกับธุรกิจของหัวเว่ยในอิหร่าน ขณะที่ เมิ่ง ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง และอยู่ระหว่างต่อสู้คดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน
เฮาเวส ยืนยันว่า หัวเว่ยมีสิทธิที่จะใช้เหตุผลนี้ในการต่อสู้คดี เนื่องจากรัฐบาลแคนาดาไม่ได้มีกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่านในขณะที่เจ้าหน้าที่แคนาดาเริ่มกระบวนการพิจารณาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ดังนั้นจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ double criminality
อย่างไรก็ตาม โฆษกหัวเว่ยยืนยันว่าการยื่นคำร้องครั้งนี้ “ไม่ได้มีเจตนาตั้งคำถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงซึ่งอยู่เบื้องหลังการเอาผิด เมิ่ง” ทว่าบริษัทมีแผนที่จะโต้แย้งประเด็นนี้ระหว่างการไต่สวนซึ่งจะมีขึ้นในเดือน ก.ย. ปี 2020
กระทรวงยุติธรรมแคนาดายังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
แกรี บ็อตติง ทนายฝ่ายคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งไม่ได้รับผิดชอบคดีของ เมิ่ง ให้ความเห็นว่า สิ่งที่ทนายหัวเว่ยยกมาอ้างก็เป็นเหตุผลที่ดี แต่ยัง “เร็วเกินไป” เนื่องจากกระบวนไต่สวนมีเป้าหมายหลักเพื่อพิสูจน์ว่าเป็น double criminality หรือไม่อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรรีบร้อน
การจับกุม เมิ่ง หว่านโจว ส่งผลกระทบรุนแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และแคนาดา โดยฝ่ายปักกิ่งแก้เผ็ดด้วยการจับกุม ไมเคิล คอฟริก อดีตนักการทูตแคนาดา และ ไมเคิล สปาวอร์ นักธุรกิจชาวแคนาดาในจีน โทษฐานต้องสงสัยเป็นภัยต่อความมั่นคง เพียงไม่กี่วันหลังจากที่ซีเอฟโอหัวเว่ยถูกจับ
ทนายของ เมิ่ง ชี้ว่า สหรัฐฯ จงใจใช้ชะตากรรมของผู้บริหารหญิงรายนี้มาเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองและเศรษฐกิจ โดยอ้างคำพูดของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่บอกว่าพร้อมจะช่วย “แทรกแซง” คดีนี้ให้ หากจะช่วยให้บรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน
เมิ่ง ซึ่งเป็นบุตรสาวของ เหริน เจิ้งเฟย ประธานและผู้ก่อตั้งหัวเว่ย ถูกส่งเข้าไปนอนในเรือนจำแคนาดา 10 วัน ก่อนจะได้รับอนุญาตให้ประกันตัวด้วยวงเงิน 10 ล้านดอลลาร์แคนาดา ซึ่งช่วยให้เธอสามารถกลับไปพำนักที่คฤหาสน์หรูในเมืองแวนคูเวอร์ระหว่างรอต่อสู้คดี