‘อาเบะ’ ขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ครองตำแหน่งยาวนานที่สุด

เอเอฟพี - ชินโซ อาเบะ สร้างสถิติเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นวันนี้ (20 พ.ย.) ทว่าเป้าหมายหลายอย่างที่รัฐบาลวาดฝันเอาไว้ยังคงห่างไกลความเป็นจริง โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเพิ่มบทบาททางทหารของกองกำลังแดนอาทิตย์อุทัย

อาเบะ รั้งเก้าอี้นายกฯ มาแล้ว 2,887 วัน ทำลายสถิติเดิมของอดีตนายกรัฐมนตรี ทาโร คัตสึระ ซึ่งครองตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นถึง 3 สมัยในช่วงปี ค.ศ. 1901-1913

อาเบะ ในวัย 65 ปี ยังเป็นผู้นำที่รั้งตำแหน่งยาวนานเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 รองจากนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ซึ่งกุมบังเหียนรัฐบาลเมืองเบียร์มาตั้งแต่ปี 2005

ฐานอำนาจทางการเมืองของ อาเบะ ยังคงเข้มแข็งพอดู และมีแนวโน้มที่จะนั่งเก้าอี้นายกฯ ยาวไปถึงเดือน ก.ย. ปี 2021 เป็นอย่างน้อย โดยยังไม่เห็นวี่แววว่านักการเมืองคนใดจะก้าวขึ้นมารับช่วงต่อ

อย่างไรก็ตาม ผู้นำญี่ปุ่นยังคงมีภารกิจที่สะสางไม่เสร็จอยู่อีกหลายเรื่อง และเคยประกาศเมื่อต้นปีนี้ว่าหลังปรับคณะรัฐมนตรีแล้วจะเริ่มแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ยังค้างคาเพื่อนำประเทศเข้าสู่ยุคใหม่

อาเบะ ย้ำความตั้งใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเปลี่ยนสถานะกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ทว่าพรรคฝ่ายค้านยังคงปฏิเสธที่ที่ร่วมผลักดันด้วย ขณะที่ตัว อาเบะ เองก็เผชิญมรสุมจากการลาออกของรัฐมนตรี 2 คน และข้อครหาเอื้อประโยชน์พวกพ้อง

ล่าสุด อาเบะ เพิ่งจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการนำเงินภาษีประชาชนมาจัดงานชมดอกซากุระให้กับกลุ่มฐานเสียงของตน ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องประกาศยกเลิกจัดงานในปีหน้า

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนวันนี้ (20) อาเบะ ย้ำว่า “ผมใช้ความพยายามในทุกๆ วันเพื่อผลักดันนโยบายที่ได้ให้สัญญาไว้ และความพยายามในทุกๆ วันก็ทำให้ผมมีวันนี้”

อาเบะ ซึ่งเป็นประธานพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติหน้าที่ “อย่างเต็มกำลังความสามารถ” ในระยะเวลาอีก 2 ปีที่เหลือ

แม้จะมีข้อผิดพลาดและกรณีอื้อฉาวอยู่บ้าง แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่ารัฐบาลผสมของ อาเบะ ยังไม่เผชิญความเสี่ยงร้ายแรงใดๆ

“ภายในพรรค LDP ยังไม่มีใครที่จะก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งของ อาเบะ ได้ อีกทั้งฐานอำนาจของนายกฯ ในพรรคก็ยังจัดว่ามีเสถียรภาพ” หนังสือพิมพ์โยมิอุริซึ่งเป็นสื่อสายอนุรักษนิยม ระบุ

ผลสำรวจของ NHK ในเดือนนี้พบว่า พรรค LDP ยังคงได้รับการสนับสนุนจากชาวญี่ปุ่นมากถึง 36.8% ในขณะที่พรรครัฐธรรมนูญประชาธิปไตย (CDP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุดได้รับความนิยมเพียงแค่ 6.3% เท่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า อาเบะ คงจะใช้เวลาในอีก 2 ปีข้างหน้าผลักดันเป้าหมายสำคัญๆ ให้สำเร็จลุล่วง ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ, ช่วยเหลือพลเมืองญี่ปุ่นที่ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัว รวมถึงหาทางออกให้กับข้อพิพาทดินแดนทางตอนเหนือกับรัสเซีย