รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – โกตาบายา ราชปักษา อดีตรัฐมนตรีกลาโหมในช่วงสงครามกลางเมืองของศรีลังกา ได้รับการประกาศให้เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) หลังจากให้สัญญาที่จะรักษาประเทศชาติให้มั่นคงปลอดภัยท่ามกลางภัยคุกคามของพวกหัวรุนแรง
ราชปักษา ซึ่งจะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์ (18) ที่วัดพุทธโบราณ ณ เมืองอนุราธปุระ เมืองมรดกโลกทางภาคกลางตอนเหนือของประเทศ นับเป็นผู้นำชาตินิยมคนล่าสุดที่กวาดชัยชนะในการเลือกตั้ง ด้วยการหาเสียงจากความโกรธเกรี้ยวและความหวาดกลัวของประชาคมชนส่วนใหญ่ในศรีลังกาที่เป็นชาวสิงหลซึ่งนับถือพุทธศาสนาเถรวาท
ในการแถลงแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกภายหลังสามารถเอาชนะคู่แข่งขัน คือ สาจิต เปรมาดาสา รัฐมนตรีการเคหะและวัฒนธรรมในคณะรัฐบาลชุดปัจจุบัน ว่าที่ประธานาธิบดีราชปักษาแสดงน้ำเสียงมุ่งรอมชอม โดยระบุว่าเขาจะเป็นผู้นำของชาวศรีลังกาทั้งมวล ไม่ว่าจะเป็นคนชาติพันธุ์ไหนหรือนับถือศาสนาใด
“ขณะที่เราเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่สำหรับศรีลังกา เราจะต้องจดจำไว้ว่าชาวศรีลังกาทั้งหมดทั้งสิ้นเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางนี้ ขอให้เราแสดงความปลาบปลื้มยินดีอย่างสันติ ด้วยเกียรติศักดิ์ศรีและระเบียบวินัยในลักษณะเดียวกับที่เรารณรงค์หาเสียง” ราชปักษาโพสต์ข้อความเช่นนี้ทางทวิตเตอร์
คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาสอย่างเป็นทางการแล้วว่า ราชปักษาชนะได้เสียงโหวต 52.25% จากการเลือกตั้งซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (16) ขณะที่เปรมาดาสาได้ไป 41.99% ทำให้ชัยชนะของราชปักษาทิ้งห่างคู่แข่ง ยิ่งกว่าที่พวกนักการเมืองและนักวิเคราะห์ทำนายกันไว้
ผู้ออกเสียงนับล้านๆ โหวตเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ด้วยความมุ่งหมายที่จะให้นำพาประเทศให้หลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ที่สุดในรอบกว่า 15 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภาคการท่องเที่ยวของศรีลังกาถดถอยหนักภายหลังเกิดเหตุโจมตีของพวกอิสลามิสต์สุดโต่งในวันอีสเตอร์ 21 เมษายน ที่สังหารผู้คนไป 269 คน
ราชปักษา ที่ปัจจุบันอายุ 70 ปี เป็นผู้กำกับดูแลการรณรงค์ทางทหารซึ่งยังความปราชัยให้แก่พวกกบฎแบ่งแยกดินแดนชาวทมิฬ ในฐานะรัฐมนตรีกลาโหมภายใต้พี่ชายของเขา ซึ่งก็คือประธานาธิบดีมหินทา ราชปักษา เมื่อ 10 ปีก่อน ในการรณรงค์หาเสียงครั้งนี้ เขาก็ประกาศให้สัญญาที่จะเป็นผู้นำซึ่งเข้มแข็งเพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ประชาชน 22 ล้านคนของประเทศเกาะแห่งนี้ ซึ่งนอกจากชาวพุทธสิงหลแล้ว ยังมีชนกลุ่มน้อยที่มีจำนวนไม่ใช่น้อยๆ อย่างชาวทมิฬ และชาวมุสลิม
ราชปักษา และพี่ชายของเขา ผู้ซึ่งคาดหมายกันว่าจะได้รับตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐบาลชุดใหม่ ต่างถูกมองว่าเป็นผู้ใกล้ชิดสนิทกับจีนมากกว่าเปรมาดาสา จีนนั้นได้ลงทุนนับพันๆ ล้านดอลลาร์ ในการก่อสร้างทั้งท่าเรือ, ทางด่วน, และโรงไฟฟ้า ในประเทศเกาะทรงความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในมหาสมุทรอินเดียแห่งนี้
ทว่าโครงการเหล่านี้ก็สร้างปัญหาทำให้ศรีลังกามีหนี้สินในระดับสูงลิ่วเช่นกัน
รัฐมนตรีคลัง มังคลา สามาราวีระ และรัฐมนตรีคนอื่นๆ อีก 2 คนได้ยื่นใบลาออกในวันอาทิตย์ (17) ภายหลังความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของเปรมาดาสา ผู้สมัครที่เป็นตัวแทนพรรครัฐบาล
ทางด้านพรรคการเมืองของชาวทมิฬต่างมีท่าทีต่อต้านคัดค้านราชปักษาอย่างแข็งขัน โดยที่ทั้ง โกตาบายา และมหินทา ราชปักษา ต่างเผชิญข้อกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนของพลเรือนอย่างกว้างขวาง ในขั้นตอนสุดท้ายของสงครามกลางเมองซึ่งยุติลงด้วยความพ่ายแพ้ราบคาบของพวกกบฎแบ่งแยกดินแดนชาวทมิฬในปี 2009
พี่น้องราชปักษาต่างปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้
สำหรับชาวมุสลิมบอกว่า พวกเขาก็กำลังเผชิญกับความเป็นปรปักษ์ภายในศรีลังกาเช่นเดียวกัน นับแต่เกิดเหตุโจมตีโรงแรมและโบสถ์คริสต์ในเดือนเมษายน โดยที่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ประกาศอ้างความรับผิดชอบ
“ชัยชนะของเขาแสดงให้เห็นถึงความแตกแยก และนี่อาจจะเป็นสร้างปัญหาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรบกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ผมไม่รู้ว่าเขาจะจัดการยังไงกับชาวมุสลิมและชาวทมิฬ” วิกเตอร์ อีแวน คอลัมนิสต์ทางการเมืองผู้หนึ่งกล่าวให้ความเห็น
จีนน่าจะได้ประโยชน์
นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดีย โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ว่า เขากำลังรอคอยที่จะได้ทำงานกับราชปักษา ศรีลังกานั้นตั้งอยู่ใกล้ๆ เส้นทางเดินเรือในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งได้กลายเป็นเวทีการประลองกำลังกันระหว่างอินเดียกับจีน ที่ต่างเป็นยักษ์เฮฟวี่เวตในภูมิภาค
ปักกิ่งได้ก้าวเข้ามาแสดงบทบาทเรื่องการฟื้นฟูบูรณะภายหลังสงครามกลางเมืองในศรีลังกา หลังจากพวกประเทศตะวันตกและอินเดียมองเมินรัฐบาลราชปักษา เนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชนในช่วงท้ายของสงคราม
เวลานี้ เมื่อตระกูลนี้กำลังหวนคืนสู่อำนาจ จีนก็น่าจะเป็นผู้ได้ประโยชน์ อัคคิล เบอรี นักวิเคราะห์ของบริษัทให้คำปรึกษา ยูเรเชีย กรุ๊ป กล่าวแสดงความคิดเห็น
“เราน่าที่จะได้เห็นการกลับมาให้ความสำคัญแก่จีนกันอีกครั้งหนึ่ง จีนน่าที่จะดีใจมากที่โกตาเป็นผู้ชนะ” เขาบอก