เอเอฟพี - พวกผู้ชุมนุมฝักใฝ่ประชาธิปไตยฮ่องกงขัดขืนคำเตือนของ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ออกมารวมตัวกันบนท้องถนนอีกครั้งในวันศุกร์(15พ.ย.) ในขณะที่ความยุ่งเหยิงทางการเมืองลุกลามมายังลอนดอน หลังรัฐมนตรีรายหนึ่งของเขตกครองพิเศษแห่งนี้เกิดการเผชิญหน้ากับพวกผู้ประท้วงสวมหน้ากากในเมืองหลวงของอังกฤษ
ฮ่องกงต้องเผชิญกับการประท้วงที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ด้วยผู้คนจำนวนมากจากประชากรทั้งหมด 7.5 ล้านคนบนเกาะ แสดงความขุ่นเคืองต่อสิทธิเสรีภาพที่ถูกกัดกร่อนภายใต้การปกครองของจีน เวลานี้สถานการณ์ความรุนแรงลุกลามบานปลายและเกิดความตึงเครียดข้ามโพ้นทะเล ก่อความไม่ลงรอยกันระหว่างจีนกับอังกฤษ ซึ่งปกครองฮ่องกงจนถึงปี 1997
ในวันพฤหัสบดี(14พ.ย.) เทเรซา เฉิง รัฐมนตรียุติธรรมฮ่องกง ล้มลงในลอนดอนหลังถูกล้อมกรอบด้วยพวกผู้ประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตย ถือเป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลฮ่องกงนับตั้งแต่เหตุจลาจลทางการเมืองปะทุขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน
เฉิง สามารถลุกขึ้นและเดินหนีออกไปได้เอง โดยไม่ชัดเจนว่าเธอได้รับบาดเจ็บใดๆหรือไม่ อย่างไรก็ตามทางจีนประณามว่ามันเป็นการ "โจมตีที่น่าตกใจ" และกล่าวหาอังกฤษโหมกระพือขบวนการเคลื่อนไหวประท้วง ส่วนตำรวจในลอนดอนบอกว่าพวกเขากำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้
ระหว่างการแถลงสรุปในกรุงปักกิ่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนบอกว่าหากอังกฤษยังคงเดินหน้าเติมเชื้อไฟ "เมื่อนั้นเหตุการณ์เลวร้ายจะไปตกที่พวกเขาเอง"
ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์(15พ.ย.) พวกผู้ประท้วงหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศออกมารวมตัวกันบนท้องถนนในฮ่องกง หลายคนตะโกนว่า "ยืนหยัดเคียงข้างฮ่องกง" และยกมือชู 5 นิ้ว ซึ่งสะท้อนถึงข้อเรียกร้อง 5 ข้อของขบวนการเคลื่อนไหว ในนั้นรวมถึงสิทธิในการเลือกผู้นำฮ่องกงอย่างเสรีและดำเนินการสืบสวนอย่างอิสระต่อคำกล่าวหาตำรวจกระทำทารุณ
ขณะเดียวกันพวกผู้ประท้วงยังคงบุกยึดมหาวิทยาลัยต่างๆ ส่วนในตัวเมืองต้องประสบความวุ่นวายด้านการขนส่งต่ออีกวัน ด้วยมีการรงับเครือข่ายเดินรถไฟที่ถูกทำลายทรัพย์สินและท้องถนนสายต่างๆถูกผู้ชุมนุมปิดกั้น นอกจากนี้แล้วเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเข้าควบคุมเปลวไฟที่ลุกไหม้รถยนต์คันหนึ่งใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงในช่วงค่ำวันศุกร์(15พ.ย.)
พฤติกรรมของพวกเขาถือเป็นการขัดขืนคำเตือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดี(14พ.ย.) เขาออกมาสนับสนุน แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงและกองกำลงตำรวจ พร้อมเตือนว่าความเคลื่อนไหวประท้วงกำลังทำลายสูตร "1ประเทศ 2ระบบ" หลักการที่ใช้บริการเมืองกึ่งปกครองตนเองแห่งนี้
สี บอกว่า "การหยุดความรุนแรงและควบคุมความยุ่งเหยิง" เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุด
ในขณะที่วิกฤตดูจะเลวร้ายลงในสัปดาห์นี้ เริ่มมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆว่าความอดทนของสีจะหมดลงและท้ายที่สุดจะมีการส่งทหารจีนเข้าประจำการในฮ่องกง
เมื่อวันพฤหัสบดี(14พ.ย.) โกลบอลไทม์ส สื่อมวลชนแห่งรัฐทรงอิทธิพลฉบับหนึ่งของจีน โหมกระพือความตึงเครียดด้วยเขียนบทวิตเตอรายงานว่าใกล้มีการประกาศเคอร์ฟิวในฮ่องกง แต่จากนั้นได้ลบข้อความดังกล่าวอย่างรวดเร็ว และต่อมารัฐบาลฮ่องกงออกมาปฏิเสธว่าไม่มีแผนประกาศเคอร์ฟิว