เอเอฟพี - อิหร่านยิงโดรนนิรนามตกใกล้เมืองท่าบันดาร์มาห์ชาร์ ตามแนวชายฝั่งอ่าวเปอร์เซียในวันศูกร์(8พ.ย.) ราว 4 เดือนครึ่งหลังจากอากาศยานสอดแนมไร้คนขับลำหนึ่งของสหรัฐฯถูกยิงตก จนเกือบจุดชนวนปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแก้แค้น
สำนักงานทาสนิมของอิหร่านรายงานว่ากองทัพใช้ขีปนาวุธจากภาคพื้นสู่อากาศ "เมอร์ซาด" ยิงตกอากาศยานไร้คนขับลำหนึ่งเหนือท้องฟ้าจังหวัดคูเซสถานก่อนรุ่งสาง
สื่อมวลชนแห่งนี้รายงานโดยอ้าง โกลัมเรซา ชาเรียติ ผู้ว่าราชการจังหวัด ระบุว่ากองทัพพบเศษซากของโดรนอยู่ในพื้นที่หนองบึงแห่งหนึ่งและได้เปิดการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาสำนักข่าวทาสนิมระบุว่าโดรนลำดังกล่าวอาจเป็นโดรนจำลองลำหนึ่งของอิหร่านซึ่งถูกยิงตกระหว่างการบินฝึกในสภาพท้องฟ้ามืดเพื่อทดสอบระบบขีปนาวุธ
ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุโดรนลำหนึ่งตกในจังหวัดเดียวกันเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม โหมกระพือรายงานข่าวว่าอากาศยานต่างชาตินิรนามถูกยิงตก ก่อนต่อมาจะพบว่ามันเป็นโดรนของอิหร่านเอง และมันไม่ได้ถูกสอยร่วง แต่ประสบเหตุขัดข้องจนลงจอดฉุกเฉินกระแทกพื้น
เหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างเตหะรานกับวอชิงตัน นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนสหรัฐฯแต่เพียงฝ่ายเดียวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ประวัติศาสตร์ปี 2015 เมื่อปีที่แล้ว และกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่
เมื่อเดือนมิถุนายน ทรัมป์อนุมัติปฏิบัติการโจมตีแก้แค้น หลังอิหร่านยิงตกโดรนลำหน่งของสหรัฐฯ แต่เกิดเปลี่ยนใจสั่งยกเลิกในนาทีสุดท้าย ทั้งนี้วอชิงตันยืนกรานว่าโดรนของพวกเขาอยู่ในน่านฟ้าสากล แต่อิหร่านอ้างว่ามันล่วงละเมิดเข้าไปในน่านน้ำของพวกเขา
วิกฤตระว่างสองชาติยิ่งสาหัสขึ้นไปอีก เมื่อเกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันและบ่อน้ำมันของอารามโก บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งกัดเซาะกำลังผลิตของริยาดลงกว่าครึ่ง
กบฏฮูติในเยเมน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่สหรัฐฯบอกว่าการโจมตีที่เกี่ยวข้องกับขีปนาวุธร่อนนั้นเป็นการยิงมาจากอิหร่านและมันเทียบเท่ากับการ "ทำสงคราม"
วอชิงตันตอบโต้ด้วยการเสริมกำลังในอ่าวเปอร์เซียและเปิดปฏิบัติการร่วมกับพันธมิตรในการปกป้องการเดินเรือในอ่าวเปอร์เซีย โดยจากข้อมูลของเพนตากอนพบว่านับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม สหรัฐฯเพิ่มกำลังทหารในตะวันออกกลางอีก 14,000 นายเป็น 70,000 นาย โดยในนั้นส่วนใหญ่ประจำการอยู่ในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย