นักวิเคราะห์ต่างชาติชี้'ไทย'คือผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน

ซีเอ็นบีซี - ไทยคือผู้ได้รับประโยชน์ลำดับต้นๆของโลก จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ตามความเห็นของ คิฟ แม็คดอนเนลล์ นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด

"เราพบเห็นหลักฐานมากมายตามบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะเหล่าบริษัทของญี่ปุ่น ที่กำลังพยายามโยกย้ายฐานการผลิตออกจากจีนและหันเหสู่ประเทศอื่นๆ(อาเซียน)" แม็คดอนเนลล์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หุ้นของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดให้ความเห็นผ่านสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ตั้งแต่ปีที่แล้ว วอชิงตันและปักกิ่งต่างรีดภาษีสินค้านำเข้าตอบโต้กันไปมาหลายรอบ ทำให้บริษัทต่างๆที่ผลิตสินค้าในจีนต้องมองหาฐานการผลิตอื่นๆเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการรีดภาษีเหล่านั้น

เแม็คคอนเนลล์ บอกว่าไทยคือประเทศที่ได้รับประโยชน์จากความปั่นป่วนในห่วงโซ่อุปทานอันมีต้นตอจากสงครามการค้าดังกล่าว "ไทยไม่ใช่แค่ผู้ได้รับประโยชน์เท่านั้น แต่ด้วยค่าเงินที่แข็งค่า มันสะท้อนและตอกย้ำมุมมองที่ว่าพวกเขาคือผู้ได้รับประโยชน์ลำดับต้นๆ"

นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่าน เงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นมาแล้วมากกว่า 6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์

"การต่อสู้ทางการค้าได้ยกระดับความสำคัญของไทยในฐานะฐานผลิตสินค้าญี่ปุ่น อาทิชิ้นส่วนรถยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ" แม็คคอนเนลล์ให้ความเห็นผ่านอีเมลที่ส่งถึงสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีเอ็น พร้อมระบุว่าญี่ปุ่นคือผู้ลงทุนต่างชาติโดยตรงรายใหญ่ที่สุดของไทย

แม็คคอนเนลล์ ได้ยกข้อมูลมาสนับสนุนความคิดเห็นของเขา โดยชี้ว่าการขยายตัวในภาคส่งออกของไทยกำลังเริ่มฟื้นตัวจากภาวะชะลอตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2018 และทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 20,000 ล้านดอลลาร์(6แสนล้านบาท)ในปีนี้ เป็น 220,000 ล้านดอลลาร์(6.6ล้านล้านบาท)

"มันเป็นปัจจัยก่อแรงกดดันเชิงบวกต่อค่าเงินบาท เช่นเดียวกับเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้า หลังนักท่องเที่ยวลดลงอันสืบเนื่องจากโศกนาฏกรรมเรือล่มในปี 2018" อ้างถึงเหตุเรือนำเที่ยวอัปปางนอกชายฝั่งภูเก็ตเมื่อปีที่แล้ว คร่าชีวิตนักท่องเที่ยวมากกว่า 40 ศพ หนึ่งในอุบัติเหตุเลวร้ายที่สุดของไทย

ในเดือนกันยายน ไทยแถลงชุดมาตรการหนึ่งออกมาโดยมีเป้าหมายเพื่อจูงใจบริษัทต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนให้ย้ายฐานการผลิตมายังไทย

เมื่อถามว่าการแข็งค่าของเงินบาทจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในภาคการส่งออกของไทยหรือไม่ เนื่องจากในขณะเดียวกันสกุลเงินอื่นๆอย่างเช่นหยวนของจีน อ่อนค่าลงอย่างมาก ในเรื่องนี้ แม็คดอนเนลล์ตอบว่ามันคือความท้าทายสำหรับไทย

เขาบอกว่า "หากคุณลองมองดูประวัติของค่าเงินบาท คุณจะทราบว่ามันเป็นสกุลเงินที่มีความผันผวนอย่างมาก พวกผู้ส่งออกจำเป็นต้องต่อสู้กับความผันผวนของค่าเงินมาตลอด ผมคิดว่าพวกเขามีประสบการณ์ในการบริหารจัดการต้นทุนบ้างพอสมควร"

เดิมทีบ่อยครั้งที่เวียดนามมักติดอันดับต้นๆของประเทศที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้บ่งชี้ว่าเวียดนามยังอยู่ห่างไกลที่จะสามารถรองรับศักยภาพด้านการผลิตจากจีน