เอเอฟพี – การโจมตีก่อการร้าย ณ ที่มั่นทางทหารแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมาลีส่งผลให้ทหารเสียชีวิต 49 คน กองทัพ ระบุวันนี้ (2) ลดลงจากตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ออกมาก่อนหน้านี้
การโจมตีที่เมืองอินเดอลิมาเนในจังหวัดเมนากาเมื่อวันศุกร์ (1) ใกล้ชายแดนติดไนเจอร์ เป็นหนึ่งในการโจมตีกองทัพมาลีที่นองเลือดที่สุดในภูมิภาคที่ปั่นป่วนด้วยความรุนแรงของกลุ่มอิสลามิสต์
กองทัพมาลี (Malian Armed Forces : FAMa) “บันทึกจำนวนผู้เสียชีวิตได้ 49 คน บาดเจ็บ 3 คน และมีความเสียหายทางทรัพย์สิน ส่วนผู้รอดชีวิตราว 20 คนได้รับการช่วยเหลือแล้ว ตอนนี้สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพ” กองทัพ ระบุ
เมื่อวันศุกร์ (1) รัฐบาล ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 53 คนในสิ่งที่พวกเขาอธิบายว่าเป็น “การโจมตีก่อการร้าย” และยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ
เจ้าหน้าที่กองทัพคนหนึ่ง กล่าวว่า ทหารไปถึงที่มั่นแห่งดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. และ “ยึดการควบคุมที่มั่นของพวกเรากลับคืนมา”
“ผู้ก่อการร้ายทำการโจมตีแบบไม่ให้ทันตั้งตัวในช่วงมื้อเที่ยง รถทหารหลายคันถูกทำลาย อีกหลายคันถูกชิงไป” เขาบอกเอเอฟพี
เมื่อวันศุกร์ (1) กองทัพและรัฐบาลประกาศว่า กำลังเสริมถูกส่งไปยังพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นหนึ่งเดือนหลังจากการโจมตีของนักรบญิฮาด 2 ครั้งคร่าชีวิตทหาร 40 คนใกล้ชายแดนติดบูร์กินาฟาโซ อย่างไรก็ตาม หลายแหล่งข่าว ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตถูกประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง
กองทัพมาลีประสบความยากลำบากในการเผชิญหน้ากับการก่อกบฏของนักรบญิฮาดที่แพร่กระจายจากตอนเหนือสู่ตอนกลางของประเทศ ภูมิภาคที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและอ่อนไหวสูง
การโจมตีหลายครั้งมานี้ยังเป็นความอัปยศสำหรับกองกำลัง G5 Sahel ซึ่งเกิดมาจากการที่ห้าประเทศร่วมกันสร้างกองกำลังต่อต้านการก่อการร้าย สมาชิก 5,000 คน และสำหรับฝรั่งเศสที่มีหน้าที่ค้ำจุนภูมิภาคนี้
ตอนเหนือของมาลีเคยตกอยู่ภายใต้การควบคุมของนักรบญิฮาดที่เกี่ยวข้องกับอัลกออิดะห์ หลังจากกองทัพมาลีไม่สามารถปราบการก่อกบฏที่นั่นในปี 2012
หนึ่งปีต่อมา ปฏิบัติการทางทหารปราบปรามนักรบญิฮาดที่นำโดยฝรั่งเศสได้ทำให้พวกเขาล่าถอยออกไป
อย่างไรก็ตาม นักรบญิฮาดเหล่านี้ได้รวมตัวกันใหม่และขยายการโจมตีแบบยิงแล้วหนีและการวางระเบิดไปยังตอนกลางและตอนใต้ของมาลี
ความรุนแรงยังกระจายเข้าสู่บูร์กินาฟาโซและไนเจอร์ ซึ่งหลายกลุ่มหัวรุนแรงฉวยประโยชน์จากความขัดแย้งที่มีแต่เดิมระหว่างชุมชน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน