มาร์เกตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) ขยับลงต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ จากข้อมูลเศรษฐกิจจีนและข่าวแง่ลบเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง ปัจจัยนี้ฉุดวอลล์สตรีทปรับลดและดันราคาทองคำพุ่ง 18 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 88 เซ็นต์ ปิดที่ 54.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 38 เซ็นต์ ปิดที่ 60.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สภาวะเศรษฐกิจโลกกลับมาอยู่ในความกังวลของนักลงทุน โดยราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังจากจีนเผยแพร่ข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอ และรายงานข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่จีนเริ่มมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวโน้มของข้อตกลงการค้าระยะยาวกับสหรัฐฯ
ความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนฉุดตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) ทรุดตัวลง แม้จะได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของแอปเปิล และเฟซบุ๊ก
ดาวโจนส์ ลดลง 140.46 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 27,046.23 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 9.21 จุด (0.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,037.56 จุด แนสแดค ลดลง 11.62 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,292.36 จุด
สัญญาณที่ผสมผสานด้านการค้าส่งผลให้นักลงทุนซื้อขายกันอย่างระมัดระวัง หลังบลูมเบิร์กรายงานว่าเจ้าหน้าที่จีนเริ่มมีความคลางแคลงใจว่าพวกเขาจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าระยะยาวอย่างครอบครัวกับวอชิงตันได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมายืนยันว่าทั้งสองประเทศจะแถลงเร็วๆ นี้เกี่ยวกับสถานที่ใหม่ที่จะมีการลงนามในข้อตกลงการค้า “เฟส 1” หลังจากชิลี ยกเลิกแผนจัดประชุมซัมมิตเอเปกในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่เดิมทีสหรัฐฯ และจีนหวังใช้โอกาสการประชุมดังกล่าวเป็นสถานที่สำหรับการลงนาม
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและความผันผวนในตลาดทุน ผลักนักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 18.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,514.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์