เอเอฟพี/รอยเตอร์ - สมาชิกสภาสามัญชนอังกฤษในวันจันทร์(28ต.ค.) ลงมติขัดขวางความพยายามของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ที่ต้องการจัดเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดในวันที่ 12 ธันวาคม ในขณะที่เขาหาทางฝ่าทางตันทางการเมืองอันเนื่องมาจากเบร็กซิต
รวมแล้วมีสมาชิกสภาสามัญชน 299 คนสนับสนุนข้อเสนอเขาและมี 70 คนโหวตคัดค้าน อย่างไก็ตามญัตตินี้มีอันต้องตกไป เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสามัญชนถึง 2 ใน 3 หรือ 424 เสียงจากทั้งหมด 650 เสียง ขณะที่พรรคเลเบอร์ พรรคฝ่านค้านหลักงดออกเสียง
"ญัตติมีอันต้องตกไป เนื่องจากได้รับเสียงสนับสนุนไม่ถึงเสียงข้างมากตามที่กำหนด" จอห์น เบอร์โคว์ ประธานสภาสามัญชนกล่าวหลังจากแถลงผลการลงมติ
ความพ่ายแพ้ของจอห์นสัน นั่นหมายความว่าตอนนี้เขาคงต้องหาหนทางอื่นสำหรับมุ่งหน้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งก็คือการผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งที่ต้องการเสียงสนับสนุนแค่เสียงส่วนใหญ่ หลีกเลี่ยงพระราชบัญญัติ "วาระที่ตายตัวของรัฐสภา” (Fixed-term Parliament Act) ปี 2011 ซึ่งกำหนดไว้ว่าต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาสามัญ 2 ใน 3 ขึ้นไปเท่านั้น
จอห์น แสดงปฏิกิริยาขานรับผลการลงมิด้วยความเดือดดาล โดยย้ำว่าการเลือกตั้งคือทางออกของสถานการณ์ที่สับสนวุ่นวายและประกาศกร้าวจะหาทางยุติภาวะทางตันเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษให้ได้
"ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง เราก็ต้องเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง" เขาบอกกับสมาชิกสภาสามัญชน "จากนี้ ในช่วงเย็นวันนี้ รัฐบาลจะแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการนำเสนอร่างกฎหมายฉบับหนึ่งสำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธันวาคม เพื่อท้ายที่สุดแล้วเราจะบรรลุเป้าหมายเบร็กซิต สภาแห่งนี้ไม่ควรจับประเทศเป็นตัวประกันอีกต่อไป ครอบครัวและธุรกิจหลายล้านไม่สามารถวางแผนสำหรับอนาคตได้"
คาดหมายว่าญัตติใหม่ของจอห์นสัน จะมีการเปิดอภิปรายและลงมติในวันอังคาร(29ต.ค.) โดยเขาจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านต่างๆอย่างเช่นพรรคสกอตติช เนชันแนล(เอสเอ็นพี) และลิเบรัล เดโมแครตส์ ซึ่งผลักดันให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 9 ธันวาคม เช่นเดียวกับคำรับประกันว่า จอห์นสัน จะไม่กลับมาเปิดอภิปรายเกี่ยวกับข้อตกลงถอนตัวที่เขาตกลงไว้กับอียูอีกแล้ว
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์(28ต.ค.) สหภาพยุโรปตกลงในหลักการให้เลื่อนกำหนดเบร็กซิตแบบยืดหยุ่นจนถึงวันที่ 31 มกราคมปีหน้า ภายใต้ข้อแม้ว่า อังกฤษต้องไม่ขอเจรจาแก้เงื่อนไขใหม่
โดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป แถลงเมื่อวันจันทร์ (28ต.ค.) ว่า นักการทูตจากรัฐสมาชิก 27 ชาติของสหภาพยุโรป (อียู) ตกลงยอมรับคำขอของสหราชอาณาจักรในการเลื่อนกำหนดการถอนตัวจากอียู (เบร็กซิต) แบบยืดหยุ่นออกไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2020 และสำทับว่า การขยายเวลาแบบยืดหยุ่นหมายความว่า อังกฤษอาจถอนตัวในวันที่ 1 ธันวาคมปีนี้ หรือ 1 มกราคมปีหน้า หากรัฐสภารับรองกฎหมายเบร็กซิตภายในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคมตามลำดับ
ขั้นตอนต่อไปสำหรับอียูคือ รอให้ฝ่ายอังกฤษยืนยันเรื่องการเลื่อนนี้อย่างเป็นทางการ และหลังจากนั้นชาติสมาชิกอียูมีเวลา 24 ชั่วโมงในการคัดค้าน ซึ่งหากไม่มีการคัดค้าน การตกลงเลื่อนเบร็กซิตจะมีผลบังคับใช้ทันที
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27ต.ค) นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ได้พยายามกดดันให้สภาสนับสนุนข้อเสนอจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดเพื่อผ่าทางตันเบร็กซิตที่เรื้อรังมากว่า 3 ปีนับจากชาวเมืองผู้ดีโหวตถอนตัวจากอียู
แหล่งข่าวในทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษเผยว่า รัฐบาลจะพิจารณาทางเลือกต่างๆ ที่รวมถึงข้อเสนอของพรรคฝ่ายค้าน หลังจากพรรคชาตินิยมสก็อตแลนด์ (เอสเอ็นพี) และพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดี) ระบุว่า ต้องการให้จัดการเลือกตั้งวันที่ 9 ธันวาคมที่จะถึง ขณะที่จอห์นสันนั้นเล็งวันที่ 12 ธันวาคม
อย่างไรก็ตาม พรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุด และไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงเบร็กซิตของจอห์นสัน ประกาศว่า จะไม่สนับสนุนการจัดเลือกตั้งก่อนกำหนดจนกว่าจอห์นสันจะยกเลิกคำขู่ถอนตัวจากอียูโดยไม่มีข้อตกลง
ถึงแม้ผ่านมากว่า 3 ปีนับจากที่ชาวอังกฤษโหวตด้วยคะแนน52-48% ให้ประเทศถอนตัวจากอียู ในการทำประชามติปี 2016 แต่อังกฤษยังคงแตกแยกอย่างชัดเจนในประเด็นนี้