เอพี/เอเอฟพี - ตำรวจปราบจลาจลกลางกรุงธากาใช้แก๊สน้ำตาและกระบองเข้าสลายผู้ประท้วงที่เป็นนักเรียนนักศึกษาจำนวนร่วมหลายร้อยคนในวันเสาร์ (4 ส.ค.) ที่จับกลุ่มชุมนุมแสดงความไม่พอใจเหตุนักศึกษา 2 รายต้องจบชีวิตกลางถนนหลังจากถูกรถเมล์แข่งรับผู้โดยสารพุ่งเข้าชนจนเสียชีวิต บาดเจ็บร่วม 100 คน ล่าสุดตำรวจสั่งปิดอินเทอร์เน็ตบนมือถือกันประท้วงลุกลาม
เอพีรายงานวันนี้ (5 ส.ค.) ว่า กรุงธากายังคงถูกตัดขาดต่อไปในเวลานี้ เกิดขึ้นหลังจากบรรดาเจ้าของบริษัทรถโดยสารสาธารณะและบรรดาลูกจ้างต่างกล่าวว่า จะไม่ออกวิ่งรถรับส่งหากว่าพวกเขายังไม่รู้สึกถึงความปลอดภัย เกิดขึ้นหลังจากที่รถเมล์จำนวนหลายสิบคันถูกเผาหรือไม่ก็ถูกทำลายจนได้รับความเสียหายทั้งภายในเมืองหลวง และพื้นที่อื่นๆของบังกลาเทศ
พยานและสื่อต่างรายงานถึงเหตุจลาจลที่ได้ปะทุขึ้นในวันเสาร์ (4) ในย่านธานมอนดี (Dhanmondi) ของกรุงธากา ซึ่งทั้งตำรวจและเจ้าหน้าที่ของพรรครัฐบาลบังกลาเทศใช้กำลังเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่เป็นทั้งนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งผู้นำระดับสูงของพรรคสันนิบาตอะวามี (Awami League) ออกมาอ้างว่า “มีอาชญากรในคราบนักเรียน” แฝงตัวร่วมความรุนแรง ในขณะที่บรรดาผู้ประท้วงจำนวนมากได้ต่างกล่าวโทษไปที่กลุ่มนักเรียนเยาวชนภายใต้สังกัดพรรครัฐบาลสำหรับการโจมตี
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ภายในประเทศได้เสนอภาพข่าวเหตุการณ์ระหว่างการปะทะ ที่มีภาพกลุ่มผู้ประท้วงโยนก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ซึ่งเหตุการณ์ปะทะกินเวลานานหลายชั่วโมง
นักข่าวเอพีที่อยู่ในที่เกิดเหตุรายงานว่า มีนักข่าวบางคนได้รับบาดเจ็บจากการโดนลูกหลง ในขณะที่หนังสือพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษบังกลาเทศ เดลีสตาร์ รายงานตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บว่ามีจำนวนมากถึง 25 คน อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีรายงานวันอาทิตย์ (5)ว่า เหตุความรุนแรงในย่านชุมชนจิกาตาลา (Jigatala) ของกรุงธากา มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะถึง 100 คน
และพบว่ามีนักเรียนนักศึกษาอีกหลายพันคนออกเดินประท้วงในพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของกรุงธากาในวันเสาร์ (4) เช่นกัน แต่ไม่มีรายงานความรุนแรงครั้งใหญ่เกิดขึ้น
เอเอฟพีกล่าวว่า นอกเหนือจากแก๊สน้ำตา และกระบองแล้ว พบว่าตำรวจธากายิงกระสุนยางเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วง แต่ทว่าทางตำรวจออกมาปฏิเสธว่าไม่มีการยิงกระสุนยางหรือแก๊สน้ำตา แต่ทว่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่รับคนเจ็บจากการประท้วงชี้ว่า ร่องรอยบาดผลสอดคล้องกับการถูกยิงด้วยกระสุนยาง
เอพีชี้ว่า การประท้วงที่เริ่มมาตั้งแต่ช่วงค่ำวันอาทิตย์ (29 ก.ค.) ก่อนหน้า หลังจากมีนักศึกษา 2 รายถูกรถโดยสาร 2 คันพุ่งชนและเสียชีวิต ส่งผลทำให้กรุงธากาที่มีคนอาศัยอย่างหนาแน่นถึง 10 ล้านคนกลายเป็นอัมพาตทันที
เอพีชี้ว่า รถเมล์ 2 คันนั้นพบว่าในช่วงเกิดเหตุกำลังแข่งกันวิ่งรับผู้โดยสาร ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมปกติที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในเมืองหลวงแห่งนี้ บรรดาผู้ประท้วงซึ่งเป็นเด็กนักเรียนต่างออกมาเรียกร้องเพื่อให้มีความปลอดภัยทางถนนมากขึ้นในบังกลาเทศ
และพบว่าบรรดาผู้ประท้วงที่เป็นนักเรียนและนักศึกษาได้ทำการหยุดรถราจำนวนหลายพันคันบนถนน รวมไปถึงรถของเจ้าหน้าที่และผู้พิพากษา เพื่อขอตรวจดูว่ารถเหล่านี้ถูกจดทะเบียนอย่างถูกต้อง และคนขับมีใบอนุญาตขับขี่ตามกฎหมายหรือไม่
จากการที่คอร์รัปชันเป็นปัญหาเรื้อรังในบังกลาเทศ ส่งผลทำให้เป็นการง่ายที่บนถนนทั่วไปจะมีรถที่ไม่ได้จดทะเบียนและนักขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาต เอพีชี้ว่า การประท้วงสร้างความขายหน้าให้กับนายกรัฐมนตรีหญิง ชีค ฮาสินา (Sheikh Hasina) โดยเฉพาะในเวลาที่ประเทศกำลังเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนธันวาคม ปลายปีนี้
ซึ่งทางพรรครัฐบาลของเธอกล่าวโทษไปที่พรรคฝ่ายค้านหลัก พรรคชาตินิยมบังกลาเทศ (Bangladesh Nationalist Party) ที่นำโดยอดีตนายกรัฐมนตรี คาเลดา เซีย (Khaleda Zia) และพรรคพันธมิตร จามาอัต-อี-อิสลามี (Jamaat-e-Islami ใช้อักษรย่อว่า JeT) ว่าใช้ ความรู้สึกเห็นอกหนใจของบรรดาเด็กๆ นักเรียนนักศึกษาเป็นเครื่องมือการเมือง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันนี้(5) เอเอฟพีรายงานว่า สื่อบังกลาเทศในวันอาทิตย์ (5) ได้ออกรายงานว่า ตำรวจสั่งการปิดการให้บริการอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ทั่วทั้งประเทศเพื่อป้องกันการประท้วงลุกลาม ซึ่งมีรายงานว่า การให้บริการอินเทอร์เน็ตระบบ 3g และ 4g ไม่สามารถใช้ได้มานานร่วม 24 ชม.มาตั้งแต่วันเสาร์ (4) ไม่นานหลังการจลาจลเริ่มขึ้น