รอยเตอร์ - ดาวเทียมสอดแนมของสหรัฐฯ ตรวจพบกิจกรรมใหม่ๆ ภายในโรงงานที่เกาหลีเหนือใช้ผลิตขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปรุ่นแรกซึ่งสามารถโจมตีถึงแผ่นดินสหรัฐฯ ได้ เจ้าหน้าที่อาวุโสเผยเมื่อวันจันทร์ (30 ก.ค.) ในขณะที่วอชิงตันยังคงเดินหน้าเจรจาทางการทูตเพื่อให้เปียงยางปลดอาวุธนิวเคลียร์
เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามเผยกับรอยเตอร์ว่า ภาพถ่ายดาวเทียมและภาพอินฟราเรดบ่งชี้ว่า มียานพาหนะหลายคันเข้าและออกจากโรงงานที่ย่านซานัม-ดง (Sanum-dong) แต่ยังบอกไม่ได้ว่ากระบวนการผลิตขีปนาวุธที่อาจกำลังเกิดขึ้นนั้นคืบหน้าไปถึงขั้นไหน
วอชิงตันโพสต์รายงานวานนี้ (30) โดยอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ซึ่งเข้าถึงข่าวกรองว่า เกาหลีเหนืออาจกำลังผลิตขีปนาวุธ ICBM ที่ใช้เชื้อเพลิงเหลวอย่างน้อย 1-2 ลูกที่ซานัมดง ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยขีปนาวุธขนาดใหญ่นอกกรุงเปียงยาง
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ระบุว่า มีภาพดาวเทียมอยู่ 1 ภาพที่แสดงให้เห็นรถบรรทุกและรถเทรลเลอร์ชนิดเดียวกับที่เกาหลีเหนือเคยใช้เคลื่อนย้าย ICBM และเนื่องจากช่วงท้ายรถถูกปกปิดจึงมองไม่เห็นว่าขนสิ่งของอะไรอยู่หรือไม่
ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็น โดยอ้างว่าเป็นเรื่องข่าวกรอง
หลักฐานต่างๆ ที่พบในเดือนนี้ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าโรงงานนิวเคลียร์และขีปนาวุธของโสมแดงยังคงดำเนินกิจกรรมอยู่ตลอดเวลา แม้จะมีการเจรจากับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รวมถึงการประชุมซัมมิตระหว่างผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อเดือน มิ.ย.ก็ตาม
ทรัมป์ รีบออกมาประกาศทันควันหลังซัมมิตที่สิงคโปร์ว่า เกาหลีเหนือไม่เป็นภัยคุกคามนิวเคลียร์ต่อสหรัฐฯ อีกต่อไป ขณะที่ คิม ก็รับปากในถ้อยแถลงกว้างๆ ว่าจะทำงานเพื่อมุ่งไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่รายละเอียดและขั้นตอนเป็นอย่างไรนั้นไม่ระบุ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ออกมาเผยข้อมูลคัดง้างกับมุมมองโลกสวยของ ทรัมป์
เมื่อปลายเดือน มิ.ย. เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อหลายสำนักว่า หน่วยข่าวกรองอเมริกันยังเชื่อว่าเกาหลีเหนือเพิ่มการผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ และไม่ได้มีเจตนาที่จะทิ้งคลังแสงนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์แบบ
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ยอมรับระหว่างที่เข้าให้การต่อคณะกรรมการความสัมพันธ์ต่างชาติแห่งวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เกาหลีเหนือยังคงผลิตเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับทำระเบิดนิวเคลียร์อยู่ แต่ก็ยืนยันว่าการเจรจาต่อรองระหว่างรัฐบาลทรัมป์กับเปียงยาง “มีความคืบหน้า”
โจ วิต อดีตผู้เจรจาของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และผู้ก่อตั้งโครงการติดตามความเคลื่อนไหวโสมแดง 38 North ชี้ว่า การคาดหวังว่าเกาหลีเหนือจะยอมยุติกิจกรรมนิวเคลียร์ “จนกระทั่งน้ำหมึกที่เซ็นข้อตกลงแห้ง” นั้นเป็นเพียงความฝันลมๆ แล้งๆ ไม่ต่างอะไรจากตอนที่สหรัฐฯ เจรจากับสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น หรือการทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน “ซึ่งสุดท้ายก็ยังคงลักลอบสร้างเครื่องหมุนเหวี่ยง (centrifuges) ที่สามารถผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ได้ ทั้งที่รับปากสหรัฐฯ แล้วว่าจะจำกัดศักยภาพเหล่านั้น”
โรงงานที่ซานัม-ดงเคยเป็นสถานที่ผลิตขีปนาวุธฮวาซอง-15 ซึ่งถือเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลที่สุดที่โสมแดงเคยผลิตได้ แต่เจ้าหน้าที่อเมริกันเชื่อว่าเปียงยางยังไม่ได้ทดสอบระบบ re-entry ซึ่งจำเป็นสำหรับการนำขีปนาวุธย้อนกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกและพุ่งไปโจมตีเป้าหมายที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คนเดิมระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่โสมแดงอาจกำลังสร้างขีปนาวุธใหม่เพื่อใช้ทดสอบและพัฒนาระบบนำร่องให้แม่นยำยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“ดูเหมือนพวกเขาจะคิดค้นเครื่องยนต์สำเร็จ แต่ยังขาดองค์ประกอบไฮเทคอื่นๆ และนี่อาจเป็นสิ่งที่พวกเขาพยายามทำอยู่” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุ
“นอกจากนี้ ICBM ที่ใช้เชื้อเพลิงเหลวยังไม่อันตรายเท่าแบบที่ใช้เชื้อเพลิงแข็ง เพราะต้องใช้เวลาเติมเชื้อเพลิงนานกว่า ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถตรวจจับและยับยั้งการยิงได้อย่างทันท่วงที ด้วยทรัพย์สินที่เรามีประจำการอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงอยู่แล้ว”