เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ไต้ฝุ่น “ชงดารี” ซึ่งขึ้นฝั่งบริเวณภาคกลางของญี่ปุ่น ยังคงเคลื่อนที่ไปตามพื้นที่ภาคตะวันตกของแดนอาทิตย์อุทัยในวันอาทิตย์ (29 ก.ค.) ถึงแม้กำลังของมันจะอ่อนตัวลง แต่ก็ยังคงสร้างความเสียหายซ้ำเติมภูมิภาคซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้ของเดือนนี้ได้ถูกเล่นงานด้วยฝนที่ตกหนักมากจนก่อให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม
ไต้ฝุ่นชงดารี ซึ่งตอนที่มีความเร็วลมสูงสุดอยู่ที่ระดับ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทีเดียว ได้ขึ้นฝั่งที่แถวเมืองอิเสะ ในจังหวัดมิเอะ บนเกาะฮอนชู เมื่อเวลาประมาณ ตี 1 วันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 23.00 น. วันเสาร์ที่ 28 ตามเวลาเมืองไทย) กรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นแถลง
พายุลูกนี้ทำให้ต้องมีการระงับเที่ยวบินไปหลายร้อยเที่ยว ส่วนบริการรถไฟก็ติดขัดต่อเนื่องจากวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์ ขณะที่ตำรวจท้องถิ่นระบุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเกี่ยวข้องกับ “ชงดารี” อย่างน้อย 10 คน ทั้งเนื่องจากหกล้ม ตลอดจนถูกบาดด้วยเศษกระจกหรือเศษโลหะมีคมที่แตกหักเสียหาย
ด้านบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียง เอ็นเอชเค ให้ตัวเลขผู้บาดเจ็บที่ 19 คนในพื้นที่รวม 6 จังหวัด
ต่อมาในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ รัฐบาลแถลงว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 21 คนจากลมแรงและฝนตกหนัก ซึ่งพายุ “ชงดารี” ก่อให้เกิดขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
ไต้ฝุ่นลูกนี้ได้อ่อนกำลังลงภายหลังขึ้นฝั่ง และถูกลดระดับจัดให้เป็นเพียงพายุฤดูร้อนแล้ว แต่จังหวัดจำนวนมากยังคงใช้ท่าทีระมัดระวังอยู่
“เรายังคงอยู่ในภาวะระมัดระวังรับมือเหตุฉุกเฉินมาโดยตลอด นับตั้งแต่ที่เกิดภัยพิบัติจากฝนตกหนัก” เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมนี้ โคจิ คุนิโตมิ เจ้าหน้าที่ด้านบริหารจัดการวิกฤต ในจังหวัดโอกายามะ ทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น กล่าวกับเอเอฟพี และบอกว่า “โชคดีว่าจนถึงตอนนี้เรายังไม่เจอกับน้ำท่วมครั้งใหม่”
ขณะที่นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ก็เตือนสำทับว่า พายุนี้ยังคงทำให้เกิดฝนตกหนัก ถึงแม้ศูนย์กลางของพายุได้พัดผ่านไปแล้วก็ตามที
พายุลูกนี้ หลังจากส่งอิทธิพลทำให้เกิดฝนตกหนักมากในภาคตะวันออกของญี่ปุ่นตั้งแต่วันเสาร์ (28) แล้ว ก็กำลังเคลื่อนที่ไปทางตะวันตกเมื่อตอนบ่ายวันอาทิตย์ (29) พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในภาคตะวันตกของญี่ปุ่นต่างรบเร้าให้ชาวบ้านชาวเมืองหลายหมื่นคนอพยพไปยังที่ปลอดภัยก่อนที่ฝนจะตกรุนแรง
คลิปวิดีโอข่าวทีวีแสดงให้เห็นคลื่นสูงกำลังกระหน่ำใส่พวกก้อนหินและกำแพงกันคลื่นในบริเวณด้านตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว และพวกต้นไม้ก็ถูกรุมเล่นงานทั้งจากลมพัดรุนแรงและฝนซัดสาดหนัก
ความแรงของคลื่นทำให้กระจกหน้าต่างของภัตตาคารชมวิวมหาสมุทรของโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองอาตะมิ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวซึ่งตั้งอยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของโตเกียว แตกหักทะลายลงมาในตอนดึกวันเสาร์
“เราไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ... คลื่นกำลังแรงพุ่งเข้ามาที่ภัตตาคาร และหน้าต่างก็แตกทะลาย แต่เราต้องขอบคุณบรรดาลูกค้าที่ทำตามคำแนะนำในการอพยพหลบภัย” เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งของโรงแรมแห่งนั้นบอก
“โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บสาหัส” เธอกล่าว โดยระบุว่ามี 5 คนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการถูกแก้วบาดขณะหลบหนี
ในตอนบ่ายวันอาทิตย์ พายุลูกนี้กำลังเคลื่อนไปในภูมิภาคชูโงกุ ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะฮอนชู ภูมิภาคแถบนี้เพิ่งเจอกับฝนตกหนักเป็นสถิติใหม่ในช่วงก่อนหน้านี้ของเดือนนี้ ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม คร่าชีวิตผู้คนไปราว 220 ราย
นี่ถือเป็นภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับดินฟ้าอากาศครั้งเลวร้ายที่สุดของญี่ปุ่นในรอบระยะเวลาหลายสิบปี และเวลานี้ผู้คนหลายพันคนที่ถูกกระทบกระเทือนยังคงต้องอาศัยอยู่ในที่หลบภัยชั่วคราวหรือไม่ก็ภายในบ้านซึ่งเสียหายไม่ทันได้ซ่อมแซม
กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า ยังอาจจะเกิดฝนตกหนัก, ดินถล่ม, ลมพัดแรง, และคลื่นสูงได้อีก