เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล ของออสเตรเลียเรียกร้องในวันนี้ (19 ก.ค.) ให้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงปลดอาร์คบิชอป ฟิลิป วิลสัน หลังจากเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานปกปิดการล่วงละเมิดทางเพศเด็กแต่ยังคงมีตำแหน่งอยู่ในศาสนจักร
หนึ่งในเจ้าหน้าที่ศาสนจักร ยศสูงที่สุดที่ถูกตัดสินความผิดในข้อหาดังกล่าว อาร์คบิชอปแห่งแอดิเลด ได้รับคำพิพากษาในเดือนพฤษภาคมฐานปกปิดการกระทำผิดของบาทหลวงใคร่เด็กคนหนึ่งในช่วงทศวรรษ 1970 และถูกลงโทษกักบริเวณภายในบ้าน 12 เดือนในเดือนนี้
วิลสัน วัย 67 ปีระงับการปฏิบัติหน้าที่ของเขาแต่ปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้ลาออกระหว่างรอการอุทธรณ์คำตัดสิน ทำให้เทิร์นบูลต้องเรียกร้องวาติกันเข้าแทรกแซง
“เขาควรลาออก และถึงเวลาแล้วที่สมเด็จพระสันตะปาปาจะทรงปลดเขา” เทิร์นบูล บอกกับผู้สื่อข่าวในซิดนีย์
“มีผู้นำมากมายที่เรียกร้องให้เขาลาออก มันชัดเจนว่าเขาควรลาออก และผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่อำนาจสูงสุดในศาสนจักรจะดำเนินการและปลดเขา” เทิร์นบูลกล่าวก่อนการประชุมกับเจ้าหน้าที่อาวุโสนิการคาทอลิกในวันนี้ (19)
วิลสันถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานไม่รายงานข้อกล่าวหาที่มีต่อ จิม เฟลตเชอร์ บาทหลวงที่นิยมชมชอบเด็กๆ
อาร์คบิชอบรายนี้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวมานานและทีมกฎหมายของเขาก็พยายามถึง 4 ครั้งที่จะทำให้คดีนี้ตกไป โดยให้เหตุผลว่า เขาเป็นโรคอัลไซเมอร์และควรหลักเลี่ยงการพิจารณาคดี ถึงแม้ว่าการวินิจฉัยโรคจะไม่ได้ทำให้เขาต้องหลุดออกจากตำแหน่งในศาสนจักรก็ตาม
ผู้พิพากษาศาลแขวงนิวคาสเซิล โรเบิร์ต สโตน ตัดสินว่าวิลสันมีความผิดฐานปกปิดความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ของบุคคลอื่น และสรุปว่า แรงจูงใจสำคัญของเขาคือการปกป้องศาสนจักร
ในการพิพากษา สโตน กล่าวว่า “ผู้กระทำผิดไม่ได้แสดงถึงความเสียใจหรือความสำนึกผิดแต่อย่างใด”
เช่นเดียวกับที่อื่นๆ ในโลก ออสเตรเลียเผชิญกับข้อกล่าวหาที่ว่า ศาสนจักรคาทอลิกเพิกเฉยและปกปิดการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
การสืบสวนประเด็นนี้ภายในประเทศเริ่มขึ้นเมื่อปี 2012 หลังจากการกดดันนานนับสิบปีให้มีสืบสวนข้อกล่าวหาเกี่ยวกับโรคใคร่เด็กในระดับสถาบัน
คณะกรรมการแต่งตั้งที่มีอายุการทำงาน 5 ปีได้พูดคุยกับเหลื่อหลายพันคนและรับฟังข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดภายในโบสถ์ บ้านเด็กกำพร้า ชมรมกีฬา กลุ่มยุวชน และโรงเรียน