เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันจันทร์ (9 ก.ค.) แสดงความเชื่อมั่นว่า คิม จองอึน ผู้นำเหาหลีเหนือ จะยึดถือในข้อตกลงปลดนิวเคลียร์ที่พวกเขาลงนามร่วมกัน แต่บอก จีน อาจกำลังหาทางบ่อนทำลายข้อตกลงดังกล่าว
ผู้นำเกาหลีเหนือและประธานาธิบดีสหรัฐฯ พบปะกันในสิงคโปร์ เมื่อเกือบ 1 เดือนก่อน ในการประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างผู้นำที่ยังอยู่ในตำแหน่งของทั้งสองชาติ ซึ่งผลลัพธ์ก็คือประกาศเจตนาร่วมปลดนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ แต่ในนั้นไม่มีกรอบระยะเวลาและคำสัญญาอย่างเป็นรูปเป็นร่างจากเปียงยาง
“ผมมั่นใจว่า คิม จองอึนจะเคารพต่อสัญญาที่เราลงนาม และอะไรที่สำคัญกว่านั้น นั่นคือการจับมือระหว่างเรา” ทรัมป์เขียนลงทวิตเตอร์ ย้ำถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างเขากับคิม จองอึน “เราเห็นพ้องปลดนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ” แม้ข้อเท็จจริงคือประกาศที่ลงนามโดย 2 ผู้นำอ้างถึงการปลดนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี ข้อกำหนดคร่าวๆ ที่อาจตีความได้หลายอย่าง
ทรัมป์ ยังแสดงความสงสัยต่อทัศนคติของจีนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับเปียงยาง โดยบ่งชี้ว่าปักกิ่งอาจเล่นบทบาทไม่สร้างสรรค์สืบเนื่องจากสงครามการค้า ซึ่งได้เห็น 2 ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกต่างออกมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าของกันและกัน “อีกด้านหนึ่ง จีนอาจใช้แรงกดดันทางทางลบต่อข้อตกลง เพราะว่าท่าทีของเราต่อการค้าจีน แต่หวังว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น” ผู้นำสหรัฐฯ ระบุ
แม้ทรัมป์แสดงความมั่นใจในตัวคิม ว่าจะทำตามคำสัญญาปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่กระบวนการปรองดองระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ ถูกโยนเข้าสู่วิกฤตเมื่อวันอาทิตย์ (8 ก.ค.) หลังเปียงยางแสดงความโกรธเกรี้ยวต่อข้อเรียกร้องปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างรวดเร็วแบบนักเลงโตและฝ่ายเดียวของวอชิงตัน
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงที่กรุงโตเกียวเมื่อวันอาทิตย์ (8 ก.ค.) 2 วันภายหลังการเจรจาหารืออย่างเคร่งเครียดที่กรุงเปียงยาง ยืนกรานว่า การเจรจากับเกาหลีเหนือมีความคืบหน้าและเป็นไปอย่างสุจริตใจ แต่เอเอฟพีรายงานว่า คำแถลงของทางการเปียงยางกลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยเกาหลีเหนือเตือนว่า อนาคตของกระบวนการสันติภาพกำลังตกอยู่ในอันตรายเพราะข้อเรียกร้อง “แบบอันธพาล” ของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยฝ่ายเดียว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯมองว่าคำแถลงล่าสุดที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงของเกาหลีเหนือเป็นกลยุทธ์การเจรจาของเกาหลีเหนือ ในขณะที่ พอมเพโอ ย้ำในเมืองหลวงของญี่ปุ่นว่า มาตรการลงโทษเปียงยางจะมีผลบังคับใช้ต่อไป จนกว่าเกาหลีเหนือจะบรรลุเป้าหมายปลดนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์