เอเจนซีส์ - รัฐมนตรีการคลังเขตยูโรโซน 19 ชาติบรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์อย่างไม่คาดหมาย หลังการเจรจายืดเยื้อมาจนถึงเช้านี้ (22 มิ.ย.) ในแผนอนุญาตยอมให้กรีซสามารถกลับเข้าสู่ตลาดได้อีกครั้งในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ หลังจากเอเธนส์ต้องยอมออกนอกตลาดนานร่วม 8 ปีภายใต้ความช่วยเหลือวิกฤตหนี้ครั้งร้ายแรง
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (22 มิ.ย.) ว่า รัฐมนตรีการคลัง 19 ชาติเขตยูโรโซนต้องมีการพิจารณาร่างสุดท้ายของข้อตกลงระหว่างเอเธนส์และบรรดาเจ้าหนี้ระหว่างประเทศของกรีซ ในการที่จะยอมให้เอเธนส์สามารถหลุดพ้นจากโครงการช่วยเหลือครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายได้ในวันที่ 20 ส.ค. และกลับเข้าสู่ตลาดใหม่อีกครั้ง
“หนี้กรีซมีความยั่งยืนอย่างก้าวหน้า” มาริโอ เซนเตโน (Mário Centeno) ประธานกลุ่มยูโรโซนแถลง ในขณะที่ บรูโน เลอ แมร์ (Bruno Le Maire) รัฐมนตรีการคลังฝรั่งเศส ชี้ว่า การที่จะเข้าสู่การประชุมนั้น “พวกเราต้องยอมรับว่ากรีซสามารถทำได้จริงๆ พวกเขาได้ทำตามสิ่งที่ได้รับปากไว้”
ทั้งนี้ ประธานยูโรซนกล่าวว่า *** ภายใต้ข้อตกลง เอเธนส์สามารถเลื่อนการชำระออกไปของการจ่ายคืนเงินกู้ร่วมหลายพันล้านยูโรภายใน 10 ปี*** จะส่งผลทำให้ระบบเศรษฐกิจสามารถมีโอกาสที่จะได้หายใจได้บ้าง ในขณะที่เส้นกำหนดตายตัวที่เข้มงวดจะสามารถส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไปในอีก 10 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม พบว่าเอเธนส์ได้รับการอัดฉีดอีกร่วม 15 พันล้านยูโร
ด้านสื่ออังกฤษชี้ว่า ที่ผ่านมาเอเธนส์รับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจากบรรดาเจ้าหนี้ระหว่างประเทศไปแล้วจำนวน 275 พันล้านยูโรในตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว เอเธนส์เกือบถูกขับออกนอกเขตยูโรโซนถึง 2 ครั้ง คณะกรรมาธิการยุโรป ปิแอร์ มอสโกวิซี (Pierre Moscovici) แถลง ซึ่งถึงแม้ว่าเอเธนส์จะออกมาจากโครงการความช่วยเหลือวิกฤตหนี้กรีซในหน้าร้อนนี้ แต่ทว่าเอเธนส์ยังคงต้องอยู่ภายใต้การกำกับที่เข้มงวดตามนโยบายของตัวเองต่อไป
เดอะการ์เดียนรายงานว่า กรีซแสดงให้เห็นถึงตัวเลขทางการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 1.9% ในปีนี้ ตั้งแต่จากการที่เห็นเศรษฐกิจกรีซหดตัวลง 26% เมื่อปี 2010 ส่วนอัตราการว่างงานลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ที่ 20% ที่มีการว่างงานในกลุ่มเยาวชนสูงถึง 43 %
นายกรัฐมนตรีกรีซ อเล็กซิส ซีปราส ได้ใช้มาตรการรัดเข็มขัดและการปฎิรูปครั้งใหญ่ต่างๆ เพื่อช่วยทำให้งบดุลกลับมีความสมดุล ค่าแรงในประเทศลดลงเกือบ 20% นับตั้งแต่ปี 2010 ส่วนเงินบำนาญและสวัสดิการสังคมต่างๆ ถูกตัดลงร่วม 70% ในช่วงเวลาเดียวกัน ขนาดของภาครัฐได้ถูกทำให้ลดลง 26%
ซึ่งบรรดานักลงทุนได้รับการทำให้เชื่อมั่นจากมาตรการเหล่านี้พร้อมกับต้นทุนของการกู้ยืมของกรีซอยู่ที่ราว 4% เปรียบเทียบกับ 24% ในช่วงเวลาใจกลางวิกฤต
สื่ออังกฤษรายงานว่า ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจครั้งที่ 3 ของกรีซจะมีกำหนดในสิ้นเดือนสิงหาคม
ในการหารือระหว่างรัฐมนตรีชาติสมาชิกที่กรุงลักเซมเบิร์ก ได้ถกเถียงไปถึงขอบเขตการผ่อนคลายในการจ่ายคืนหนี้เหล่านี้โดยการขยายระยะเวลากำหนดเส้นตาย ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ได้รับการชื่นชมอย่างล้นหลามที่สามารถทำให้เกิดการสิ้นสุดช่วงเวลาวิกฤตได้อย่างถาวร ที่ในตอนเริ่มแรกดูเหมือนว่า วิกฤตกรีซจะทำให้เกิดปัญหาต่อสกุลเงินยูโรของสหภาพยุโรปขั้นร้ายแรง
รัฐมนตรีการคลังเยอรมนี โอลาฟ โชลซ์ (Olaf Scholz) ในช่วงต้นของการประชุมได้กล่าวว่า “มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากในกรีซ รัฐบาลและประชาชนกรีซทำงานได้ดีมาก” ส่วนรัฐมนตรีการคลังฝรั่งเศสเสริมว่า “มีการต้องเสียสละอย่างมหาศาล”
