xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : “ทรัมป์-คิม” หารือส่วนตัว 41 นาที นักอ่านภาษากายชี้สองผู้นำพยายามคุมเกม แต่ยังประหม่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - ผู้นำสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือเริ่มเข้าสู่การประชุมซัมมิตช่วงที่ 2 พร้อมกับคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูง หลังใช้เวลาหารือแบบสองต่อสองพร้อมคู่ล่ามเพียง 41 นาที ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายเผยทั้ง ทรัมป์ และ คิม ต่างพยายามที่จะเป็นฝ่ายคุมเกม แต่ไม่อาจซุกซ่อนความประหม่าเมื่อต้องพบกันเป็นครั้งแรก

ทรัมป์ และ คิม ได้ออกมาปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชนอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นการหารือรอบแรก ก่อนจะเดินกลับเข้าไปยังห้องประชุม โดยมีคณะเจ้าหน้าที่อาวุโสทั้งสองฝ่ายติดตามเข้าไปด้วย

ผู้สื่อข่าวได้ยิน คิม พูดกับ ทรัมป์ ผ่านล่ามว่า “ผมว่าคนทั้งโลกคงกำลังมองดูอยู่ และส่วนใหญ่คงคิดว่านี่มันคือฉากจากภาพยนตร์ไซ-ไฟ แนวแฟนตาซี”

ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมครั้งนี้ “ดีมาก ดีมากๆ เป็นความสัมพันธ์ที่ดี” ส่วน คิม เองก็ออกมากล่าวในเชิงบวกว่า “เราสามารถก้าวข้ามความลังเลสงสัยและการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการประชุมครั้งนี้ และผมเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่ดีต่อการสร้างสันติภาพ”

คาเรน เหลียง (Karen Leong) ผู้อำนวยการสถาบัน Influence Solutions ในสิงคโปร์ ระบุว่า ช่วง 60 วินาทีแรกแสดงให้เห็นว่าผู้นำทั้งคู่พยายามแสดงออกว่าเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์

“การจับมือเป็นไปในลักษณะของสองบุคคลที่เท่าเทียมกัน แต่ดูเหมือน ทรัมป์ จะตระหนักในข้อนี้ และพยายามแสดงออกมากยิ่งขึ้นว่าเขาต่างหากที่เป็นผู้นำ” เธอกล่าว

เห็นได้ชัดว่าผู้นำสหรัฐฯ เป็นฝ่ายพูดมากกว่า ส่วน คิม เพียงแต่นิ่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจเสียส่วนใหญ่ และหันไปมองหน้า ทรัมป์ ถึง 3 ครั้งขณะที่เดินไปยังห้องประชุม แต่เขาก็ยังอุตส่าห์เอามือไปแตะที่แขนของผู้นำสหรัฐฯ เพื่อแสดงถึงอำนาจควบคุมเช่นกัน

ทรัมป์ วัย 72 ปี เดินนำ คิม ซึ่งอ่อนวัยกว่ากันเท่าตัวไปยังห้องสมุดเพื่อเริ่มต้นการหารือแบบสองต่อสอง และได้เอื้อมมือไปแตะที่หลังของผู้นำโสมแดงเพื่อแสดงความสนิทสนม

อย่างไรก็ตาม เหลียง มองว่าทั้งคู่ไม่อาจปกปิดความกังวลขณะที่นั่งลงพูดคุยกันต่อหน้าสื่อมวลชน โดย ทรัมป์ ได้เผยยิ้มแบบแค่นๆ พร้อมกับขยับมือไปมา ส่วน คิม ก็นั่งพิงพนักเก้าอี้และตามองไปที่พื้น

ก่อนที่จะเดินทางมาสิงคโปร์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้คุยโอ่ว่าตนสามารถบอกได้ตั้งแต่นาทีแรกว่า คิม มีความตั้งใจที่จะสร้างสันติภาพจริงหรือไม่

“ผมจะรู้ได้ทันทีหากสิ่งดีๆ กำลังจะเกิดขึ้น” ทรัมป์ กล่าวระหว่างการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 ที่แคนาดาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ “ผมจะรู้ด้วยว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วหรือไม่”











กำลังโหลดความคิดเห็น