เอเอฟพี - ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนการพบกับผู้นำ คิม จองอึน ของเกาหลีเหนือ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ รับบทเจ้าภาพในวันนี้ (7) ต้อนรับนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นที่ต้องการให้รับฟังเสียงของเขาก่อนการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์
ทรัมป์และอาเบะจะจัดการแถลงข่าวในช่วงบ่ายที่ทำเนียบขาวก่อนที่จะเดินทางไปยังแคนาดาเพื่อเข้าร่วมการประชุมซัมมิทจี 7 ซึ่งถูกครอบงำด้วยเรื่องนโยบายการค้าเชิงรุกของผู้นำสหรัฐฯ
นับตั้งแต่ความเฉลียวใจครั้งแรกว่าการประชุมซัมมิทระหว่างทรัมป์และคิมอาจเกิดขึ้น ญี่ปุ่นยืนกรานหลายครั้งว่า วอชิงตันระวังอย่าประมาทรัฐบาลที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ในเปียงยาง
และด้วยการไปวอชิงตันเพื่อพบทรัมป์เป็นครั้งที่สองในรอบไม่ถึง 2 เดือน อาเบะต้องการแน่ใจว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯเข้าใจประเด็นของเขา ท่ามกลางความคึกคักทางการทูตเกี่ยวกับอนาคตของคาบสมุทรเกาหลี
ก่อนออกจากกรุงโตเกียว ผู้นำญี่ปุ่นเน้นย้ำว่าระหว่างการเยือนวอชิงตันครั้งนี้ เขาหวังว่าจะประสานงานอย่างใกล้ชิดและตกลงกับทรัมป์เรื่องการเข้าถึงประเด็นเกาหลีเหนือ
และเขาได้กำหนดสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นในการประชุมซัมมิทวันที่ 12 มิถุนายนในสิงคโปร์เพื่อเป็นความสำเร็จ ได้แก่ ความคืบหน้าอย่างชัดเจนในการควบคุมโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของโสมแดง ตลอดจนคำตอบเรื่องชาวญี่ปุ่นที่ถูกเปียงยางลักพาตัวในช่วงปลายทศวรรษ 1970 และ 1980
ในการพบกันครั้งสุดท้ายของพวกเขาที่บ้านพักของทรัมป์ในฟลอริดาเมื่อเดือนเมษายน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สัญญากับอาเบะว่าจะยกประเด็นการลักพาตัวขึ้นมาพูดคุยในการเจรจาใดๆ ก็ตามกับเปียงยาง
แต่ประเด็นดังกล่าวแทบจะไม่มีความสำคัญเลยสำหรับประธานาธิบดีที่ผันตัวมาจากนักธุรกิจรายนี้ ซึ่งกลยุทธ์ของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
นอกเหนือจากนั้น ทรัมป์ยังดูเหมือนจะตื่นเต้นอย่างที่สุดกับการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกที่จัดการเจรจาโดยตรงกับทายาทของตระกูลคิม
การทูตอันคึกคักเกี่ยวกับเกาหลีเหนือจนถึงตอนนี้ทำให้อาเบะกลายเป็นคนนอก เนื่องจากทรัมป์กำลังเตรียมพบกับคิม ในขณะที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนและประธานาธิบดี มุน แจอิน ของเกาหลีใต้ต่างพบกับผู้นำเกาหลีเหนือแล้วคนละสองครั้ง