เอเอฟพี – พลเรือนอย่างน้อย 12 คนจากครอบครัวเดียวกันเสียชีวิตในการโจมตีของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย กลุ่มสังเกตการณ์ ระบุในวันนี้ (2)
“การโจมตีทางอากาศและการยิงปืนใหญ่ (เมื่อคืนวันศุกร์) ของกลุ่มพันธมิตรนานาชาติที่หมู่บ้านฮิดาจที่ถูกไอเอสควบคุมในตอนใต้ของจังหวัดฮาซาเกห์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน” กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน (Syrian Observatory for Human Rights) ที่มีฐานในอังกฤษ กล่าว
พลเรือนกลุ่มนี้ที่ประกอบด้วยผู้หญิง 2 คนและลูกๆ ของพวกเธอเป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน กลุ่มสังเกตการณ์ ระบุ
การเสียชีวิตของคนกลุ่มนี้ทำให้ “ตัวเลขการเสียชีวิตของพลเรือนในระยะเวลา 24 ชั่วโมงโดยฝีมือกลุ่มพันธมิตรทางตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติสเพิ่มเป็น 20 ราย” กลุ่มสังเกตการณ์ที่อาศัยเครือข่ายแหล่งข่าวทั่วซีเรีย ระบุ
เมื่อวันพฤหัสบดี (31) พลเรือนอีก 8 คนเสียชีวิตในการโจมตีของกลุ่มพันธมิตรในจังหวัดเดอีร์อัสซอร์ ทางใต้ของฮาซาเกห์
นักรบญฺฮาดกลุ่มไอเอสสูญเสียเกือบทั้งหมดดินแดนคอลิฟะห์ที่พวกเขาสถาปนาเองซึ่งครั้งหนึ่งเคยคร่อมพื้นที่กว้างใหญ่ของซีเรียและอิรักนับตั้งแต่ปี 2014
ในปัจจุบัน กลุ่มไอเอสเหลือพื้นที่ไม่ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ของซีเรีย อ้างจากกลุ่มสังเกตการณ์ฯ
ในเดอีร์อัสซอร์ กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (Syrian Democratic Forces) ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวเคิร์ดและได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ กำลังพยายามขับไล่นักรบญิฮาดออกจากฝั่งตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส
เมื่อวานนี้ (1) กลุ่มพันธมิตรระบุว่า การโจมตีทางอากาศของพวกเขาในซีเรียและอิรักทำให้พลเรือนเสียชีวิต “โดยไม่ได้เจตนา” 892 คนนับตั้งแต่ปฏิบัติการทิ้งระเบิดเริ่มเมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว
มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 350,000 คนในสงครามซีเรียนับตั้งแต่มันเริ่มต้นในปี 2011 ด้วยการปราบปรามการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างโหดเหี้ยม หลังจากนั้นมันกลับกลายเป็นสงครามซับซ้อนที่มีมหาอำนาจโลกและนักรบญิฮาดต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง