รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วันในวันพุธ (30 พ.ค.) หลังมีข่าวเหล่าประเทศผู้ส่งออกจะยังจำกัดการผลิตต่อไป ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรง นักลงทุนมองในแง่ดีขึ้นเกี่ยวกับวิกฤตการเมืองอิตาลี ขณะที่ทองคำขยับขึ้นเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากรายงานข่าวที่ระบุว่าโอเปกกับรัสเซียกำลังพิจารณาผ่อนปรนข้อตกลงจำกัดการผลิตที่บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2017
อย่างไรก็ตาม ในวันพุธ (30 พ.ค.) ความเป็นไปได้ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการดังกล่าวดูจะลดน้อยลงไป หลังธนาคารกลางรัสเซียระบุในถ้อยแถลงว่าราคาน้ำมันที่ลดลงอาจก่อความเสี่ยงต่อภาคการเงินของประเทศ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (30 พ.ค.) พุ่งแรง นักลงทุนมองในแง่บวกมากขึ้นต่อวิกฤตการเมืองในอิตาลี หลังจากปัญหาดังกล่าวกระตุ้นให้พวกเขาเทขายอย่างหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 306.33 จุด (1.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,667.78 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 34.15 จุด (1.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,724.01 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 65.86 จุด (0.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,462.45 จุด
การฟื้นตัวของวอลล์สตรีทได้แรงหนุนบางส่วนจากสถานการณ์ทางการเมืองในอิตาลี หลังมีข่าวว่าสองพรรคการเมืองต่อต้านสถาบันกลับมาเดินหน้าพยายามจัดตั้งรัฐบาลอีกรอบ ซึ่งดีกว่าที่จะปล่อยให้ประเทศแห่งนี้ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (30 พ.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย หลังยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทีนบกับดอลลาร์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,306.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์