รอยเตอร์/เอพี - ตำรวจเศรษฐกิจมาเลเซียออกแถลงการณ์วันศุกร์ (25 พ.ค.) ชี้ว่า ในการเข้าบุกค้นอพาร์ตเมนต์จำนวนหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนหนึ่งของการสอบคดี 1MDB เจ้าหน้าที่พบเงินสดมูลค่ารวม 114 ล้านริงกิตมาเลเซีย หรือราว 28.6 ล้านดอลลาร์ซ่อนอยู่ในภายในกระเป๋าเดินทาง 35 ใบ และในการเข้าค้น ทางตำรวจยังสามารถยึดกระเป๋าถือสตรีแบรนด์หรูได้มากกว่า 400 ใบ
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (25 พ.ค.) ว่าบ้านพักของอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค และอพาร์ตเมนต์ของบุตรสาวและบุตรชายเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ทางตำรวจแดนเสือเหลืองเข้าบุกค้นนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.เป็นต้นมา อมาร์ ซิงห์ (Amar Singh) หัวหน้าหน่วยอาชญากรรมเศรษฐกิจมาเลเซีย CCID กล่าวในงานแถลงข่าว
ทั้งนี้ ในการเข้าบุกค้นหนึ่งในอพาร์ตเมนต์ที่ว่างเปล่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบกระเป๋าเดินทางจำนวน 35 ใบที่มีเงินสดมูลค่าร่วม 114 ล้านริงกิตมาเลเซีย หรือราว 28.6 ล้านดอลลาร์ซุกซ่อนอยู่ด้านใน
เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า กระเป๋าเดินทางที่ตำรวจพบภายในอพาร์ตเมนต์นั้น ในความเป็นจริง มีทั้งหมด 72 ใบแต่มีจำนวน 35 ใบที่มีเงินสดซ่อนไว้
รอยเตอร์กล่าวว่า พบว่าเงินเหล่านี้เป็นธนบัตรในสกุลเงินต่างประเทศที่แตกต่างกันถึง 26 สกุล ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย และดอลลาร์สิงคโปร์ก็ตาม
ในการแถลงข่าวซิงห์ระบุว่า “เรานั่งลงพร้อมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารในการเรียงและประเมินเงินสดที่ยึดมาได้”
ซิงห์ชี้แจงว่า อพาร์ตเมนต์ที่ว่างเปล่าแห่งนี้ซึ่งอยู่ในพาวิลเลียน เรซิเดนเซส (Pavillion Residences) ย่านบูกิต บินตัง (Bukit Bintang) ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ไม่ได้เป็นของคนในตระกูลของนาจิบ ราซัค แต่อย่างไรก็ตาม หัวหน้าหน่วยอาชญากรรมเศรษฐกิจมาเลเซียไม่ยอมเปิดเผยชื่อเจ้าของอพาทเมนต์ดังกล่าว
เอพีเปิดเผยว่า พบว่าอพาร์ตเมนต์ที่ถูกเข้าบุกค้นนั้นมีความเกี่ยวพันกับอดีตนายกฯ นาจิบ
นอกจากนี้ ในการบุกค้น ทางเจ้าหน้าที่ยังพบกล่องบรรจุกระเป๋าถือสตรีแบรนด์หรูจำนวน 284 กล่องภายในอพาร์ตเมนต์ และทางเจ้าหน้าที่ยังสามารถยุดกระเป๋าถือสตรีอีกกว่า 150 ใบที่ยึดได้มาจากบ้านของบุตรสาวนาจิบ พร้อมกับรองเท้าจำนวนมาก ซึ่งซิงห์ระบุว่า ดูเหมือนยี่ห้อกระเป๋าส่วนใหญ่ที่ถูกยึดได้จะเป็นแบรนด์ชื่อดังจากฝรั่งเศส “แอร์เมส”
“ทางเราได้ติดต่อทางบริษัท แอร์เมส และทางเราจะส่งภาพถ่ายไปยังกรุงปารีสเพื่อทำการพิสูจน์ความแท้จริงของกระเป๋าเหล่านี้ พร้อมกับมูลค่าราคาประเมิน” ซิงห์แถลง
นอกจากนี้ยังมีการนำผู้เชี่ยวชาญมากประเมินมูลค่าเครื่องประดับ นาฬิกา และสิ่งอื่นๆ ที่ยึดได้ในระหว่างการเข้าบุกค้น โดยเอพีกล่าวว่า สิ่งของเหล่านี้มีจำนวน 37 ชิ้นซ่อนอยู่ในกรเป๋าเดินทางจำนวน 1 ใบ
ในการเข้าบุกค้นจากการสอบสวนคดี 1MDB พบว่าตำรวจบุกไปตรวจค้นทั้งหมด 12 แห่ง
โดยซิงห์ อ้างอิงจากเอพี ระบุว่า มีการค้นพบเงินสดมูลค่าราวครึ่งล้านริงกิตมาเลเซีย หรือราว 126,000 ดอลลาร์ และจำนวนเงินในสกุลเงินต่างชาติที่ยังไม่สามารถประเมินได้อีก รวมไปถึงกระเป๋าถือสตรีและของมีมูลค่าอื่นๆ ถูกยึดมาได้ภายในบ้านพักนาจิบ
ทั้งนี้ พบว่าในวันพฤหัสบดี (24) อดีตนายกฯ นาจิบได้ออกแถลงการณ์สรุปต่อเจ้าหน้าที่ปราบปรามคอร์รัปชันมาเลเซียว่า เป็นความเกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงิน 10.6 ล้านดอลลาร์ในบัญชีเงินฝากส่วนตัวของเขาที่ทางเจ้าหน้าที่สืบสาวไปยังต้นตอซึ่งเป็นยูนิตเดิมของ 1MDB
พรรคอัมโนแถลงขอเงินที่ถูกยึดคืนจากตำรวจ
รอยเตอร์ชี้ว่า และในช่วงค่ำวานนี้ (24) พรรคอัมโนของนาจิบได้ออกมาเรียกร้องให้ตำรวจมาเลเซียคืนเงินของพรรคที่ถูกยึดไว้ได้ระหว่างการบุกค้น โดยชี้แจงว่า เป็นเงินสนับสนุนการหาเสียงที่ได้มาจากการได้รับบริจาค และเป็นเงินทุนของพรรคที่ยังเหลือหลังจากการหาเสียง
ในแถลงการณ์พรรคอัมโนกล่าวว่า “ในการที่พรรคอัมโนต้องการเงินเหล่านี้คืน ทางพรรคขอให้ทางตำรวจปลดล็อกเงินจำนวนเหล่านี้ออกมา และส่งมอบให้กับทางพรรคหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องแล้ว”
ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปีที่ทางพรรคไม่มีอำนาจการบริหารประเทศ โดยพรรคอัมโนชี้ว่า ทางพรรคต้องการเงินจำนวนนี้เพื่อเยียวยาจากการที่ทางพรรคพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง
รอยเตอร์ชี้ว่า พรรคอัมโนถูกขึ้นชื่อมานานแล้วว่าเป็นพรรคที่ขึ้นชื่อในด้านนโยบายเงิน จากการที่พรรคสร้างฐานเสียงมาจากประชาชนเชื้อสายมาเลย์ผ่านระบบอุปถัม
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของพรรคอัมโนที่ออกมา รอยเตอร์กล่าวว่า ทางพรรคยังชี้ว่า มหาเธร์ โมฮัมหมัด ได้เคยส่งมอบเงินจำนวน 1.2 พันล้านริงกิต หรือราว 301 ล้านดอลลาร์ต่อพรรคและสมาชิกพรรคทั่วประเทศจำนวน 3 ล้านคนหลังจากที่เขาก้าวลงจากอำนาจจากการเป็นประธานพรรคในปี 2003
