เอเอฟพี - จิมมี คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ควรไดรับการพิจารณาให้คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ หากว่าเขาประสบความสำเร็จในการหล่อหลอมสันติภาพกับเกาหลีเหนือ
“ถ้าประธานาธิบดีสหรัฐฯประสบความสำเร็จในการได้มาซึ่งสนธิสัญญาสันติภาพกับเกาหลีเหนือ ที่ได้รับการยอมรับจากทั้งสองฝ่าย ผมคิดว่าเขาควรจะได้รับพิจารณาสำหรับรางวัลโนเบลสันติภาพ” คาร์เตอร์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าว Politico ในวันอังคาร (22 พ.ค.)
“ผมคิดว่ามันเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญและมีค่ายิ่ง ซึ่งประธานาธิบดีคนก่อนๆ ไม่เคยทำให้มันเป็นจริงได้” อดีตผู้นำวัย 93 ปีกล่าว อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน คาร์เตอร์ เชื่อว่า ทรัมป์ กำลังก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่สันติภาพในตะวันออกกลาง หลังเขาตัดสินใจย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอล จากเทลอาวีฟ ไปยังเยรูซาเลม
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างปี 1977-1981 ซึ่งเคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2002 เคยมีข้อพิพาทกับ ทรัมป์ ในหลากหลายประเด็น “ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อวิพากษ์วิจารณ์เขา แต่ผมคิดว่าการบอกความจริงคือหนึ่งในค่านิยมทางจริยธรรมที่สำคัญในฐานะประธานาธิบดี” คาร์เตอร์กล่าว “และการทำตามกฎหมายคือสิ่งที่เราทุกคนให้คำปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี”
“ผมคิดว่าประธานาธิบดีควรบอกความจริง ผมคิดว่าประธานาธิบดีควรแสวงหาสันติภาพ ผมคิดว่าประธานาธิบดีควรปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม” เขากล่าว “ดังนั้น ความเท่าเทียม, สันติภาพ, ความจริงและความยุติธรรมพื้นฐาน คือค่านิยมทางจรยธรรมบางส่วนที่ผมคิดว่าทุกคนควรพึงมี”
คาร์เตอร์บอกว่า “สำหรับเกาหลีเหนือนั้น เราทำทุกอย่าง หวังทำลายเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ แต่ชาวเกาหลีเหนือควรได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ และผมคิดว่ามาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่เราบังคับใช้ได้กับพวกเขา ได้ซ้ำเติมความเจ็บปวดแก่ประชาชนที่ทุกข์ทรมานอยู่ก่อนแล้วภายใต้ผู้นำเผด็จการที่โหดเหี้ยม ขณะที่มันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดแก่พวกผู้นำเกาหลีเหนือเท่าไหร่เลย”
คาร์เตอร์ ซึ่งเคยเสนอตัวเป็นผู้แทนเจรจาคลี่คลายความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ บอกต่อว่า “ผมคิดว่าคนกลางคนถัดไป ผู้เจรจาคนถัดไป ซึ่งบางทีอาจเป็นประธานาธิบดีทรัมป์ ผมหวังว่าคนคนนั้นจะให้คำรับประกันกับพวกเขาว่าเรามีความตั้งใจยอมละมือบางอย่าง อย่างเช่นหยุดขู่โจมตีพวกเขาหรือยกเลิกมาตรการปิดล้อมทางเศรษฐกิจ ผมคิดว่ามันมีราคาถูกมาก หากแลกมากับการที่พวกเขายอมละทิ้งโครงการนิวเคลียร์”
ทรัมป์ มีกำหนดประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์กับ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในสิงคโปร์ วันที่ 12 มิถุนายน แต่เมื่อเร็วๆ นี้เปียงยางขู่ถอนตัว เนื่องจากไม่พอใจที่สหรัฐฯ เรียกร้องละทิ้งนิวเคลียร์ฝ่ายเดียว
