เอเอฟพี - ชาวญี่ปุ่น 3 รายซึ่งถูกบังคับให้ทำหมันภายใต้กฎหมายสุพันธุศาสตร์ (eugenics) ที่เลิกใช้ไปแล้ว เรียกร้องวันนี้ (17 พ.ค.) ให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาขออภัยและจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ
ผู้เสียหายหลายรายได้ยื่นคำร้องต่อศาลทั้งในกรุงโตเกียวและเมืองอื่นๆ หลังจากมีเหยื่อรายแรกออกมาเรียกร้องค่าชดเชยเมื่อต้นปีนี้
โจทก์วัย 75 ปีซึ่งยื่นฟ้องศาลในกรุงโตเกียว ระบุว่า “ผมตัดสินใจฟ้องศาล โดยหวังเหยื่ออีกหลายคนที่ทุกข์ทรมานเหมือนผมมาหลายสิบปีจะได้กล้าออกมาพูดและต่อสู้ร่วมกัน”
“ผมต้องการให้รัฐบาลยอมรับความจริง และเอาชีวิตของผมกลับคืนมา” ผู้เสียหายซึ่งใช้นามแฝงว่า ซาบุโระ คิตะ กล่าว
คิตะ เล่าว่า ตนถูกบังคับทำหมันตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น และหลังแต่งงานก็ไม่กล้าบอกความจริงกับภรรยา เพิ่งจะมารับสารภาพก่อนที่เธอจะตายจากไปเมื่อปี 2013
นาโอโตะ เซกิยะ ทนายความของ คิตะ แถลงว่า ลูกความของตนเรียกร้องค่าชดเชยจากรัฐบาลเป็นเงิน 30 ล้านเยน
“รัฐสภาไม่เพียงไม่มีมาตรการเยียวยาผู้เสียหาย แต่รัฐบาลในขณะนั้นยังบังคับใช้นโยบายที่เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนด้วย” เซกิยะ ให้สัมภาษณ์
นอกจาก คิตะ แล้ว ยังมีเหยื่ออีก 2 รายไปยื่นฟ้องศาลที่เมืองเซนได และที่เกาะฮอกไกโดในวันนี้ (17)
กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นยอมรับว่า มีประชากรราว 16,500 คนถูกบังคับทำหมันตามกฎหมายสุพันธุศาสตร์ที่บังคับใช้ระหว่างปี 1948-1996
กฎหมายฉบับนี้อนุญาตให้แพทย์สามารถบังคับทำหมันบุคคลที่มีความบกพร่องด้านสติปัญญาซึ่งอาจถ่ายทอดไปสู่ลูกหลาน “เพื่อป้องกันไม่ให้ประชากรรุ่นหลังเกิดมาอย่างด้อยคุณภาพ”
ทางการญี่ปุ่นยืนยันว่า ประชากรราว 8,500 คนยอมทำหมันโดยสมัครใจ แต่ทนายชี้ว่าแม้แต่กรณีเหล่านั้นก็อาจจะเป็นการ “ถูกบังคับกลายๆ”
รัฐบาลญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะขอโทษหรือจ่ายค่าชดเชยให้แก่เหยื่อบังคับทำหมันมาโดยตลอด โดยอ้างว่าเป็นกระบวนการที่ “ถูกต้องตามกฎหมาย” ณ เวลานั้น
เมื่อเดือน ม.ค. หญิงชาวญี่ปุ่นวัย 60 ปีเศษคนหนึ่งเป็นผู้เสียหายรายแรกที่ตัดสินใจยื่นฟ้องศาล และเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงิน 11 ล้านเยนเป็นค่าชดเชยที่เธอถูกบังคับทำหมันตั้งแต่อายุ 15
ต่อมาในเดือน มี.ค. สมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นรับปากจะพิจารณาจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากฎหมายสุพันธุศาสตร์ โดยจะมีการออกกฎหมายรองรับภายในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม เหยื่อและผู้สนับสนุนวิจารณ์ว่าขั้นตอนการเยียวยาล่าช้าเกินไป
เยอรมนีและสวีเดนก็เคยบังคับใช้กฎหมายสุพันธุศาสตร์เช่นกัน ซึ่งรัฐบาลทั้งสองชาติได้ขออภัยและจ่ายค่าชดเชยแก่เหยื่อแล้ว
สำหรับกรณีของญี่ปุ่น ผู้ป่วยโรคเรื้อนบางรายถูกบังคับให้ทำแท้งเนื่องจากฎหมายสุพันธุศาสตร์ห้ามคนเหล่านี้มีบุตร
ศาลญี่ปุ่นมีคำพิพากษาเมื่อปี 2005 ให้รัฐจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ป่วยโรคเรื้อนรายหนึ่งที่ถูกบังคับทำแท้งเพราะกฎหมายฉบับนี้