เอเอฟพี - ตำรวจอินโดนีเซียเผยคนร้าย 5 คนซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกันได้ลงมือก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายหน้าสำนักงานตำรวจในเมืองสุราบายาวันนี้ (14 พ.ค.) โดยลักษณะการลงมือคล้ายคลึงกับเหตุโจมตีโบสถ์คริสต์เมื่อ 1 วันก่อนหน้าซึ่งเป็นผลงานของกลุ่มหัวรุนแรงอีกครอบครัวหนึ่ง
อินโดนีเซียเผชิญเหตุลอบวางระเบิดต่อเนื่องรายวันในช่วงย่างเข้าสู่เดือนรอมฎอน โดยกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อกรณีระเบิดฆ่าตัวตายที่โบสถ์คริสต์ 3 แห่งในเมืองสุราบายาเมื่อวันอาทิตย์ (13) ท่ามกลางความวิตกกังวลว่านักรบญิฮาดหัวรุนแรงอาจยึดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นฐานที่มั่นแห่งใหม่ หลังจากพ่ายแพ้สงครามในตะวันออกกลาง
อินโดนีเซียซึ่งประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ราว 17,000 เกาะต้องเผชิญปัญหาการก่อความไม่สงบโดยกลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรงมานานหลายปี รวมถึงเหตุระเบิดที่บาหลีเมื่อปี 2002 ซึ่งคร่าชีวิตนักท่องเที่ยวไปถึง 202 คน และนับเป็นการก่อวินาศกรรมครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์แดนอิเหนา
ตั้งแต่นั้นมา กองกำลังความมั่นคงอินโดนีเซียได้ลงมือกวาดล้างเครือข่ายกลุ่มติดอาวุธอย่างจริงจัง และจับกุมสมาชิกได้หลายร้อยคน ซึ่งทำให้การก่อเหตุโจมตีในระยะหลังๆ ไม่สร้างความเสียหายมากนัก และพุ่งเป้าไปที่หน่วยงานความมั่นคงเสียเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม กลุ่มติดอาวุธเริ่มเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์โจมตีใหม่ๆ ดังจะเห็นได้จากกรณีที่พ่อแม่ลูก 6 คนแยกย้ายกันไปกดระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีโบสถ์คริสต์ 3 แห่งขณะกำลังมีพิธีสวดมิสซาในวันอาทิตย์ (13) ณ เมืองสุราบายาซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย และต่อมาในวันนี้ (14) ก็มีสมาชิกอีกครอบครัวหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันไปกดระเบิดที่จุดตรวจของสำนักงานตำรวจในเมืองสุราบายา ทำให้มีผู้บาดเจ็บไปอีก 10 คน
ติโต การ์นาวิยัน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย เอ่ยถึงเหตุระเบิดที่สำนักงานตำรวจว่า “คนร้าย 5 คนขี่รถมอเตอร์ไซค์มากัน 2 คัน และหนึ่งในนั้นเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ”
“พวกเขาเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน”
เด็กหญิงวัย 8 ขวบรอดตายมาได้ และถูกส่งไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนพ่อ แม่ และพี่น้องชายอีก 2 คนของเธอเสียชีวิตจากแรงระเบิด
ตำรวจอิเหนาระบุว่า ครอบครัวมือระเบิดโบสถ์คริสต์มีสายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับกลุ่ม ญะมาอะห์ อันชอรุต เดาละห์ (Jamaah Ansharut Daulah - JAD) เครือข่ายอิสลามิสต์สุดโต่งท้องถิ่นซึ่งประกาศสวามิภักดิ์ต่อไอเอส
การ์นาวิยัน คาดว่า JAD คงจะสั่งให้สมาชิกก่อเหตุโจมตีเพื่อแก้แค้นที่แกนนำบางคนถูกจับ และเหตุวินาศกรรมต่อเนื่องคราวนี้น่าจะมีส่วนเชื่อมโยงกับกรณีนักโทษก่อจลาจลในเรือนจำความมั่นคงสูงใกล้ๆ กรุงจาการ์ตาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว