รอยเตอร์ - กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (10 พ.ค.) กำลังมาตรการคว่ำบาตรบุคคล 3 รายและบริษัท 3 แห่ง ที่พวกเขาบอกว่าเป็นท่อลำเลียงเงินสู่กองกำลัง “กุดส์” (The Qods Force) แห่งกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) ไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนอเมริกาพ้นจากข้อตกลงนิวเคลียร์ประวัติศาสตร์ปี 2015
ถ้อยแถลงของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า อเมริกาได้ลงมือร่วมกับสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ทลายเครือข่ายดังกล่าว และกล่าวหาธนาคารกลางอิหร่านให้ความช่วยเหลือกลุ่มบุคคลและบริษัทต่างๆ เหล่านั้นอย่างกระตือรอรืน ให้เข้าถึงดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านธนาคารต่างชาติ
“รัฐบาลและธนาคารกลางอิหร่านเข้าถึงสถาบันต่างๆ ในยูเออีโดยมิชอบ เพื่อให้ได้มาซึ่งดอลลาร์สำหรับเป็นทุนสนับสนุนความเคลื่อนไหวปองร้ายของกองกำลังกุดส์แห่งกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่าน ในนั้นถูกใช้เป็นทุนและสนับสนุนทางอาวุธแก่กลุ่มตัวแทนของพวกเขาในภูมิภาค ปกปิดจุดประสงค์จากการเข้าถึงดอลลาร์” สตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอเมริกากล่าว
กระทรวงการคลังระบุว่า บุคคล 6 ราย และบริษัท 3 แห่งถูกคว่ำบาตรภายใต้กฎระเบียบของสหรัฐฯ ซึ่งมีเป้าหมายเล่นงานอย่างเจาะจงต่อพวกผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายระดับโลกที่อยู่ในบัญชีดำและความเคลื่อนไหวทางการเงินของอิหร่าน
มาตรการคว่ำบาตรนี้มีขึ้นเพียง 2 วันหลังจาก ทรัมป์ ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 และเกิดขึ้นในขณะที่ ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กำลังเร่งเร้าพันธมิตรในยุโรป เอเชียและตะวันออกกลาง ให้กดดันอิหร่านคืนสู่โต๊ะเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเตหะราน
การตัดสินใจของทรัมป์ ทำให้บริษัทต่างๆ มีเวลา 90 วันถึง 6 เดือน สำหรับลดระดับทำการค้ากับอิหร่าน
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 รอยเตอร์รายงานว่า มีเงินสดอย่างน้อย 1,000 ล้านดอลลาร์ถูกลักลอบเข้าไปยังอิหร่าน แม้ตอนนั้นยังอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรรัฐฯและชาติอื่นๆ ก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยเงินสดเหล่านั้นถูกส่งผ่านทางพวกผู้แลกเงินและธนาคารฉากหน้าในดูไบและอิรัก
รายงานระบุว่า ธนาคารกลางอิหร่านได้ร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ ในนั้นรวมถึงบริษัทอิหร่านที่ถูกคว่ำบาตร สำหรับหาทางให้ได้มาซึ่งดอลลาร์ ในนั้นรวมถึงใช้บริษัทบังหน้าและเครือข่ายของบริษัทเหล่านั้น พร้อมบอกด้วยว่าธนาคารกลางอิหร่านได้ออกคำสั่งถึงบริษัทบังหน้าทั้งหลายในต่างแดนให้เข้าซื้อดอลลาร์