รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรพลเมืองเวเนซุเอลา 3 คนและบริษัทอีก 20 แห่งซึ่งมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ด้วยข้อหาลักลอบขนยาเสพติด ขณะที่รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้นานาชาติเพิ่มมาตรการกดดันต่อการากัส
รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวโทษระบอบสังคมนิยมของ มาดูโร ว่าเป็นต้นเหตุทำให้เศรษฐกิจเวเนซุเอลาตกต่ำ ภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงลิ่ว และเกิดวิกฤตขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งทำให้ชาวเวเนซุเอลาต้องอพยพลี้ภัยไปยังประเทศข้างเคียง
อย่างไรก็ตาม มาตรการแซงก์ชันล่าสุดของสหรัฐฯ ถูกประกาศใช้กับบุคคลซึ่งไม่เป็นที่รู้จักมากนัก และคงไม่ทำให้เศรษฐกิจเวเนฯ ย่ำแย่ไปกว่าที่เป็นอยู่
แม้ ทรัมป์ จะยังไม่ถึงขั้นสั่งคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันเวเนซุเอลา รวมถึงการประกันภัยสำหรับเรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติเวเนฯ แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันเมื่อวันจันทร์ (7) ว่ามาตรการเหล่านี้ “ยังอยู่ในการพิจารณา”
เพนซ์ ได้กล่าวต่อคณะผู้แทนองค์การรัฐอเมริกัน (The Organization of American States - OAS) ทั้ง 35 ชาติ ซึ่งมีเวเนซุเอลาเป็นสมาชิกอยู่ด้วยว่า ทุกฝ่ายจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการกดดันเพื่อโดดเดี่ยว มาดูโร ยิ่งขึ้นไปอีก
“เราเชื่อว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำอะไรให้มากยิ่งขึ้น” เพนซ์ กล่าวต่อที่ประชุม OAS ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. “ผู้แทนรัฐเสรีทุกชาติซึ่งมาประชุมกัน ณ ที่นี้ควรแสดงออกอย่างเข้มแข็งว่า เรายืนอยู่ข้างชาวเวเนซุเอลา และพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้กับผู้ที่กดขี่พวกเขา”
เพนซ์ เรียกร้องให้ OAS ระงับสมาชิกภาพของเวเนซุเอลา ตลอดจนปิดกั้นธุรกรรมการเงินและการออกวีซ่าให้แก่คณะผู้นำของการากัส
รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังขอให้ มาดูโร ระงับการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 20 พ.ค. และเชื่อว่าจะมีการข่มขู่และแทรกแซงข้อมูลเกิดขึ้นแน่นอน
“ทั่วโลกรู้ดีว่า เวเนซุเอลาจะไม่มีการเลือกตั้งที่แท้จริงเกิดขึ้นในวันที่ 20 พ.ค.” เพนซ์ กล่าว
แซมูเอล มอนคาดา เอกอัครราชทูตเวเนซุเอลาประจำองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประณามถ้อยแถลงของ เพนซ์ พร้อมยืนยันว่า “การสั่งระงับเลือกตั้งมีความเป็นไปได้อยู่ที่ศูนย์”
ผู้นำเวเนซุเอลาซึ่งถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรโดยตรงเมื่อปีที่แล้วกล่าวโทษ “จักรวรรดิอเมริกา” ว่าอยู่เบื้องหลังแผนบ่อนทำลายเศรษฐกิจเวเนซุเอลาเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของตน
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า บริษัท 20 แห่งที่ถูกขึ้นบัญชีคว่ำบาตรแบ่งออกเป็นบริษัทในเวเนซุเอลา 16 แห่ง และในปานามาอีก 4 แห่ง ซึ่งล้วนมีพลเมืองเวเนฯ 3 คนเป็นเจ้าของ หรือควบคุมกิจการอยู่
คาร์ลอส ทรูจิลโล เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำ OAS ระบุว่า ตนเชื่อว่าเวเนซุเอลาอาจลาออกจากกลุ่มรัฐอเมริกันภายในสิ้นปี 2018 และนี่คือสิ่งที่ OAS “สมควรพิจารณาอย่างจริงจัง”
“เวเนซุเอลาเคยพูดว่าอยากลาออก แต่ดูเหมือนพวกเขาจะยังหาประตูไม่เจอ” เขากล่าว