มาร์เกตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ (23 เม.ย.) หลังมีรายงานว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของซาอุดีอาระเบียปลิดชีพหัวหน้ากบฏฮูตีในเยเมน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงานในตะวันออกกลาง ส่วนวอลล์สตรีททรงตัวและทองคำร่วงลงหนักกว่า 14 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 24 เซ็นต์ ปิดที่ 68.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 65 เซ็นต์ ปิดที่ 74.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ซาเลห์ อัล-ซัมมัด หัวหน้าฝ่ายการเมืองของกบฏฮูตีในเยเมน เสียชีวิตในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของซาอุดีอาระเบีย ก่อความกังวลว่ามันอาจก่อความยุ่งเหยิงแก่อุปทานน้ำมันดิบในตะวันออกกลาง “ความกังวลต่อความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และข้อเท็จจริงที่ว่าอุปทานจะตึงตัวอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ทำให้ตลาดนำมันฟื้นตัวกลับมา” ฟิล ฟลินส์ นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสของเฟรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ปกล่าว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (23 เม.ย.) ทรงตัวในกรอบแคบๆ การดีดขึ้นของตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอเมริกา รื้อฟื้นความกังวลว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดาวโจนส์ ลดลง 14.25 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,448.69 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.15 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,670.29 จุด แนสแดค ลดลง 17.53 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,128.60 จุด
วอลล์สตรีทแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกช่วงครึ่งวันเช้า นักลงทุนมองแง่ดีต่อรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ และข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มีกำหนดเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ แต่จากนั้นตลาดก็แกว่งตัวลงและปิดในกรอบแคบๆ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับ 3.00 เปอร์เซ็นต์ในวันจันทร์ (23 เม.ย.) ขณะที่อัตราตอบแทนที่สูงขึ้นคือสัญญาณว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต
ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งขึ้น จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินดีดตัวขึ้น และทำให้ภาคเอกชนมีต้นทุนในการกู้ยืมมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้มีการลดการลงทุน และลดการจ้างงาน ขณะที่ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย และจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะซบเซา และถดถอยในที่สุด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นและดอลลาร์แข็งค่า ฉุดให้ราคาทองคำในวันจันทร์ (23 เม.ย.) ปิดลบ 3 วันติด โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 14.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,324.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
