เอเอฟพี - กองทัพอากาศสหรัฐฯ มอบสัญญามูลค่าเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ แก่ “ล็อกฮีด มาร์ติน” สำหรับออกแบบและพัฒนาขีปนาวุธเร็วเหนือเสียงที่สามารถยิงจากเครื่องบินรบ ท่ามกลางความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในเทคโนโลยีดังกล่าวของรัสเซียและจีน
สัญญาดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีเสียงเตือนซ้ำๆ จากเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของจีนและรัสเซียในสมรภูมิอาวุธเร็วเหนือเสียง ซึ่งขีปนาวุธสามารถพุ่งทะยานด้วยความเร็วเหนือเสียงหลายเท่า และหลบหลีกการตรวจจับของระบบป้องกันขีปนาวุธ
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อช่วงค่ำวันพุธ (18 เม.ย.) ว่าล็อกฮีดจะได้รับทุน 928 ล้านดอลลาร์ สำหรับสร้างขีปนาวธใหม่ซึ่งไม่ติดหัวรบนิวเคลียร์ ที่พวกเขาเรียกว่า “อาวุธโจมตีตามแบบไฮเปอร์โซนิก”
“สัญญานี้สำหรับออกแบบ, พัฒนา, งานวิศวกรรม, บูรณาการระบบต่างๆ, ทดสอบ, วางแผนด้านลอจิสติกส์ และบูรณาการอากาศยานเพื่อสนับสนุนทุกองค์ประกอบของอาวุธไฮเปอร์โซนิกยิงจากอากาศ” ถ้อยแถลงระบุ
ไมค์ กริฟฟิน ปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ด้านการวิจิยและวิศวรกรรม ระบุในวันพฤหัสบดี (19 เม.ย.) ว่าจีน ประสบความสำเร็จในการสร้างระบบๆหนึ่งสำหรับยิงขีปนาวุธเร็วเหนือเสียงโจมตีจากระยะไกลหลายพันกิโลเมตร
ด้วยอาวุธไฮเปอร์โซนิกสามารถเอาชนะระบบต่อต้านขีปนาวุธทั่วไป เนื่องจากมันถูกออกแบบมาให้สามารถเปลี่ยนเส้นทางและไม่พุ่งตามวิถีโค้งเหมือนกับขีปนาวุธอื่นๆ จึงทำให้มันยากจะติดตามและยิงสกัด
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย อ้างว่ากองทัพของเขาได้พัฒนาขีปนาวุธเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่ที่โล่ป้องกันขีปนาวุธใดๆ ของตะวันตกก็ไม่อาจสกัดกั้นได้
แกรี เพนเนตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของสำนักงานป้องกันขีปนาวุธแห่งสหรัฐฯ เคยกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ ว่าขีปนาวุธเร็วเหนือเสียงของศัตรู ซึ่งสามารถยิงได้ทั้งจากเครื่องบิน, เรือ หรือเรือดำน้ำ อาจก่อช่องโหว่ใหญ่หลวงในระบบเซ็นเซอร์และแสนยานุภาพด้านสกัดกั้นขีปนาวุธของอเมริกา
ทั้งนี้ในส่วนของสำนักงานป้องกันขีปนาวุธแห่งสหรัฐฯเองได้ของบ 120 ล้านดอลลาร์ สำหรับพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 75 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2018