เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี (22 มี.ค.) จากความกังวลต่อกำลังผลิตสหรัฐฯ ส่วนดาวโจนส์ร่วงหนักกว่า 700 จุด หลังทรัมป์ลงนามในคำสั่งเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน ขณะที่ทองคำปิดบวกพอสมควร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 87 เซ็นต์ ปิดที่ 64.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 56 เซ็นต์ ปิดที่ 68.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แม้รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในวันพุธ (21 มี.ค.) จะระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 มีนาคม ลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล
แต่ขณะเดียวกัน สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยด้วยว่า กำลังผลิตรายสัปดาห์ของประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 26,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 10.407 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบแรงในวันพฤหัสบดี (22 มี.ค.) โดยดาวโจนส์ร่วงลงถึง 700 จุด หลังความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ลงนามในคำสั่งงเพิ่มภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าสูงสุด 60,000 ล้านดอลลาร์ กระพือความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า
ดาวโจนส์ ลดลง 724.42 จุด (2.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,957.89 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 68.24 จุด (2.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,643.69 จุด แนสแดค ลดลง 178.61 จุด (2.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,166.68 จุด
“มันจะเป็นมาตรการทางการค้าชุดแรกในหลายๆ ชุด” ทรัมป์กล่าวพร้อมกับลงนามในคำสั่งเพิ่มภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าสูงสุด 60,000 ล้านดอลลาร์ อ้างเพื่อแก้แค้นกรณีปักกิ่งขโมยทรัพย์สินทางปัญญาอเมริกา
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกระพือความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า ในขณะที่ปักกิ่งประกาศกร้าวว่าจะปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง ส่งสัญญาณว่าอาจตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ซึ่งพวกนักวิเคราะห์เกรงว่าจะก่อความเสียหายแก่ทั้งสองประเทศ เช่นเดียวกับเศรษฐกิจโลกที่เพิ่งฟื้นตัว
ข้อวิตกดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่่ยงต่ำ และดันให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (22 มี.ค.) ขยับขึ้นพอสมควร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,327.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์