เอเอฟพี - โฆษกทำเนียบขาวระบุกรณีที่ทางการจีนเตรียมแก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดทางให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งผู้นำได้ตลอดชีวิต ถือเป็น “เรื่องภายใน”
“ดิฉันเชื่อว่านั่นเป็นเรื่องที่จีนจะต้องตัดสินใจ” ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (26 ก.พ.) หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยตัดมาตราที่กำหนดให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 สมัย
“ประธานาธิบดี (โดนัลด์ ทรัมป์) เคยพูดเรื่องการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของนักการเมืองระหว่างที่หาเสียง และนั่นก็เป็นสิ่งที่ท่านสนับสนุนให้มีในสหรัฐอเมริกา แต่สำหรับกรณีของจีนก็ต้องขึ้นอยู่กับจีนว่าจะตัดสินใจอย่างไร”
ทรัมป์ ชี้ว่าการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกรัฐสภาเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยขจัดการทุจริตเชิงนโยบายในแวดวงการเมืองอเมริกัน
สี จิ้นผิง ถูกมองว่าเป็นผู้นำที่มีอำนาจบารมีสูงที่สุดของจีนในรอบ 30 ปี และการแก้ไขกฎหมายเพื่อครองอำนาจตลอดชีพก็จะทำให้เขามีสถานะเทียบได้กับประธานเหมา เจ๋อตง และแน่นอนว่าเรื่องนี้ย่อมจะส่งผลต่อความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ต่อเนื่องไปอีกหลายสิบปี
ท่าทีตอบสนองอย่างระมัดระวังของสหรัฐฯ สะท้อนความจริงข้อนี้ได้เป็นอย่างดี แต่ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่ารัฐบาล ทรัมป์ นั้นลังเลที่จะวิพากษ์วิจารณ์ระบอบการปกครองของจีนที่ขัดต่อหลักประชาธิปไตย และต้องการรักษามิตรภาพอันเปราะบางกับ สี จิ้นผิง ซึ่ง ทรัมป์ เคยอ้างว่ามีสายสัมพันธ์ส่วนตัวที่ “ไม่ธรรมดา”
แม้จะมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างอบอุ่น แต่ ทรัมป์ และ สี ก็ยังคงขัดแย้งกันในเรื่องการค้า รวมถึงถ้อยคำข่มขู่ที่ผู้นำสหรัฐฯ มักแสดงต่อเกาหลีเหนือ
แม้จีนจะเหนื่อยหน่ายพฤติกรรมก้าวร้าวของเกาหลีเหนือไม่ต่างจากสหรัฐฯ แต่ก็ไม่ต้องการให้โสมแดงถูกบีบคั้นทางเศรษฐกิจจนถึงขั้นระบอบการปกครองล่มสลาย
