รอยเตอร์ - “แอร์บัส” กวาดออเดอร์ล็อตใหญ่ส่งท้ายปี 2017 รั้งแชมป์ค่ายอากาศยานที่มียอดสั่งซื้อสูงสุดแซงหน้า “โบอิ้ง” ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 แต่มีแนวโน้มต้องยุติการผลิตเครื่องบินโดยสารซูเปอร์จัมโบ้ A380 หลังไม่มีคำสั่งซื้อต่อเนื่องมานานถึง 2 ปี
ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของยุโรปแถลงว่า ยอดสั่งซื้อสุทธิในปี 2017 เพิ่มขึ้น 52% มาอยู่ที่ 1,109 ลำ ขณะที่โบอิ้งของสหรัฐฯ กวาดออเดอร์สุทธิไปได้เพียง 912 ลำ และหากไม่มีการ “ยกเลิก” คำสั่งซื้อเลยจะทำให้ออเดอร์เครื่องบินของแอร์บัสพุ่งกระฉูดขึ้นไปถึง 1,229 ลำ และ 1,053 ลำสำหรับโบอิ้ง
แอร์บัสระบุว่า อุปสงค์เครื่องบินโดยสารที่เติบโตเร็วเกินคาด สะท้อนจำนวนผู้โดยสารเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว
“ตลาดการบินแข็งแกร่งขึ้นในทุกภูมิภาค” จอห์น ลีฮีย์ ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าสัมพันธ์ของแอร์บัส ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
แอร์บัสระบุว่า บริษัทฯ สามารถส่งมอบเครื่องบินให้แก่ลูกค้าได้ทั้งสิ้น 719 ลำในปี 2017 ซึ่งถือว่าบรรลุตามเป้าหมาย และเพิ่มขึ้น 4% จากปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม โบอิ้งยังคงครองบัลลังก์ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยมีการส่งมอบเครื่องบินทั้งหมด 763 ลำในปี 2017
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ยอดสั่งซื้อของแอร์บัสถือเป็นการทำผลงานสั่งลาครั้งสุดท้ายสำหรับ 2 ผู้บริหารระดับตำนานอย่าง ลีฮีย์ ซึ่งจะเกษียณอายุในเดือนนี้ หลังปฏิบัติหน้าที่ “เซลส์แมน” ให้กับแอร์บัสมานานกว่า 20 ปี และ ฟาบรีซ เบรจิเยร์ ประธานบริหารแอร์บัส ซึ่งจะอำลาตำแหน่งในเดือน ก.พ.
เบรจิเยร์ คาดการณ์ว่า แอร์บัสซึ่งมียอดสั่งซื้อเครื่องบินมากกว่า 7,000 ลำจะส่งมอบเครื่องบินแซงหน้าโบอิ้งได้ภายในปี 2020 ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2011
อย่างไรก็ดี โบอิ้ง ตั้งคำถามว่าแอร์บัสจะส่งมอบเครื่องบินได้ครบตามจำนวนยอดสั่งซื้อจริงหรือไม่
ยอดขายของแอร์บัสที่พุ่งกระฉูดในเดือน ธ.ค. ส่วนใหญ่เน้นไปที่เครื่องบินขนาดกลางในตระกูล A320 ซึ่งเป็นคู่แข่งกับรุ่นยอดนิยม 737 ของโบอิ้ง
นักวิเคราะห์บางคนตั้งข้อสังเกตว่า แอร์บัสใช้กลยุทธ์ลดแลกแจกแถมเพื่อให้ได้คำสั่งซื้อล็อตใหญ่ๆ เช่น ออเดอร์เครื่องบิน 430 ลำสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ 4 บริษัทที่กระทำผ่านบริษัทลงทุน อินดิโก พาร์ทเนอร์ส ในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม แอร์บัสกลับมียอดขายตกต่ำในส่วนของเครื่องบินลำตัวกว้าง โดยเฉพาะรุ่น A380 ซึ่งถูกยกเลิกคำสั่งซื้อมาแล้ว 2 ครั้ง และไม่มีออเดอร์เพิ่มมานานถึง 2 ปีเต็ม ทว่าโบอิ้งเองก็ประสบปัญหาถูกยกเลิกคำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 747 เช่นเดียวกัน
แอร์บัสฝากความหวังสุดท้ายไว้ที่ลูกค้ารายใหญ่อย่าง “เอมิเรตส์” ว่าอาจจะสั่งซื้อ A380 เพิ่มเติมอีกสัก 30 ลำ
ลีฮีย์ ยอมรับกับรอยเตอร์ว่า อนาคตของสายการผลิต A380 ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเอมิเรตส์ เพราะแม้จะมีสายการบินอื่นๆ ที่สนใจสั่งซื้อเครื่องบินซูเปอร์จัมโบ้ขนาดมาตรฐาน 544 ที่นั่ง แต่ก็ในจำนวนที่ไม่มาก และหากไม่ได้ยอดซื้อเพิ่มจากเอมิเรตส์ แอร์บัสก็จำเป็นต้องเลิกผลิตเครื่องบินรุ่นนี้