เอเจนซีส์ - ล่าสุดกองทัพซิมบับเวออกแถลงการณ์ประกาศยึดอำนาจแล้ว หลังใช้ยานยนต์หุ้มเกราะปิดทางเข้าออกที่ทำการรัฐบาล มีเสียงปืนและระเบิดดังทั่วกรุงฮาราเร มีบางกระแสได้ยินใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดีมูกาเบ พบสถานีโทรทัศน์ของประเทศถูกกองทัพเข้ายึดชั่วข้ามคืน โฆษกกองกำลังอ่านแถลงการณ์ อ้างยึดอำนาจต้องการจัดการกับพวกอาชญากรรอบตัวผู้นำ ที่ก่อปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคมให้ประเทศ ในขณะนี้เมืองหลวงซิมบับเวอยู่ภายใต้การควบคุม พร้อมรับประกันความปลอดภัยผู้นำซิมบับเววัย 93 ปีพร้อมครอบครัว
ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ รายงานวันนี้ (15 พ.ย.) ว่า กองทัพซิมบับเวแถลงการยึดอำนาจที่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ZBC ที่ได้ถูกทางกองทัพส่งกำลังเข้ายึดในชั่วข้ามคืน โดยโฆษกกองทัพซิมบับเวแถลงในช่วงเช้าวันพุธ (14) ว่า ทางกองทัพหวังว่า ความปกติสุขจะกลับคืนกลับมาเร็วที่สุดหลังจากที่ทางกองทัพเสร็จสิ้น “ปฏิบัติการ” ของตนเองแล้ว
ผู้ที่ออกมาอ่านแถลงการณ์ เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษกล่าวว่า คือ พล.ต.เอสบี โมโย (SB Moyo) โดยในแถลงการณ์ได้ชี้ว่า ทางกองทัพต้องการกำจัด “อาชญากร” ที่อยู่รายล้อมรอบตัวประธานาธิบดีมูกาเบ ซึ่งเป็นกลุ่มคนก่อปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคมให้ประเทศ
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษวิเคราะห์การยึดอำนาจครั้งนี้ว่า ทางกองทัพต้องการขวางไม่ให้เกรซ มูกาเบ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ชองซิมบับเวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป และทางกองทัพเลือกที่จะชิงลงมือก่อน หลังประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ สั่งปลดรองประธานาธิบดีของตัวเองเมื่อต้นเดือนนี้
สอดคล้องกับการรายงานของซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ ที่ชี้ไปถึงความขัดแย้งระหว่างมูกาเบและกองทัพซิมบับเว โดยพบว่าผู้นำกองทัพ พลเอกคอนสแตนติโน ชีเวนกา (Constantino Chiwenga) ไม่ยอมรับการที่ มูกาเบ สั่งปลดรองประธานาธิบดีซิมบับเว เอ็มเมอร์สัน มนากากวา (Emmerson Mnangagwa)ออกจากตำแหน่ง และขับออกจากพรรครัฐบาล ซึ่งเป็นการออกมาปฏิเสธ 1 วันก่อนหน้ามูกาเบนั่งเป็นประธานการประชุมประจำสัปดาห์ของคณะ ครม.ในวันอังคาร (14) อ้างอิงจากแหล่งข่าว
หลังจากนั้น ทางพรรครัฐบาลซิมบับเว ซานู-พีเอ็ฟ (ZANU-PF) ประกาศว่า ทางพรรคต้องการที่จะเลือกแนวทางหลักของพรรคมากกว่าอำนาจปืน และชี้ไปถึงพฤติกรรมของพลเอกในกองทัพซิมบับเวว่า เป็นพฤติกรรมส่อถึงการกบฏ...ที่ต้องการให้ยุยงเพื่อให้เกิดการลุกขึ้นสู้
แต่ทว่าแถลงการณ์ที่ออกมาในวันพุธ (14 พ.ย.) โฆษกกองทัพปฏิเสธว่า กองกำลังและรถถังและรถยานยนต์หุ้มเกราะที่อยู่บริเวณถนนในกรุงฮาราเรไม่ได้มีเพื่อโค่นประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ วัย 93 ปี
สื่ออังกฤษรายงานภาพข่าวย่านใจกลางกรุงฮาราเร มีนายทหารในชุดเขียวลายพรางประจำอยู่บริเวณไฟแดงกลางถนน และรวมไปถึงภาพรถถังจอดอยู่กลางถนนที่ว่างเปล่า
ทั้งนี้ พบว่าในแถลงการณ์ กองทัพซิมบับเวได้รับประกันความปลอดภัยในตัวผู้นำซิมบับเว โดยชี้ว่าในเวลานี้ประธานาธิบดีซิมบับเว โรเบิร์ต มูกาเบ และครอบครัวปลอดภัย แต่ไม่ได้กล่าวเจาะจงไปถึงภรรยา เกรซ มูกาเบซึ่งเป็นชนวนของปัญหาความขัดแย้ง
เดอะการ์เดียนยังชี้ว่า โฆษกกองทัพที่อ่านแถลงการณ์ ยังประกาศเตือนให้ทุกคนอยู่ในความสงบ และห้ามเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็น แต่ในแถลงการณ์ยังอนุญาตให้ผู้ที่ต้องทำงาน หรือมีกิจธุระสำคัญให้ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติต่อไปได้
ในแถลงการณ์กล่าวว่า กองทัพซิมบับเวจำเป็นต้องลงมือ เนื่องมาจากทางสถานีโทรทัศน์ ZBC “ได้รับคำสั่งไม่ให้เผยแพร่แถลงการณ์ของกองทัพในวันจันทร์ (13)” และสถานการณ์ของซิมบับเวได้ก้าวไปสู่อีกขั้นแล้ว
สื่ออังกฤษชี้ว่า กองทัพซิมบับเวออกคำสั่งห้ามกำลังพลทุกนายลาพัก และยังส่งสัญญาณไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติซิมบับเว “ยอมให้ความร่วมมือกับทางกองทัพเพื่อผลดีต่อซิประเทศ” และแถลงการณ์ยังส่งคำเตือนว่า การยั่วยุใดๆที่เกิดขึ้นจะได้รับการตอบโต้อย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ พบว่าทางกองทัพได้ควบคุมตัวคนในรัฐบาลมูกาเบ เป็นต้นว่า รัฐมนตรีการคลัง อิกนาติอุส ชอมโบ (Ignatius Chombo) อ้างอิงจากแหล่งข่าวรัฐบาลซิมบับเวจากการรายงานของรอยเตอร์ ชอมโบเป็นสมาชิกแกนนำของมุ้ง G40 ภายในพรรครัฐบาลซิมบับเว ซานู-พีเอฟ (ZANU-PF) ซึ่งมีเกรซ มูกาเบ ภรรยาประธานาธิบดีมูกาเบวัย 52 ปีเป็นผู้นำ ซึ่งเธอเตรียมการที่จะสืบทอดอำนาจต่อจากสามี
โดยก่อนหน้าการยึดอำนาจ รอยเตอร์รายงานว่า พลเอกคอนสแตนติโน ชีเวนกา ผู้นำกองทัพซิมบับเว พร้อมกับผู้นำทางกองกำลังระดับสูงหลายคนออกมาอ่านแถลงการณ์เตือนในวันจันทร์ (13) ***โดยชี้ว่า ทางกองทัพจะไม่รอช้าที่จะก้าวเข้ามา เพื่อปกป้องการปฎิวัติซิมบับเว ***
ในแถลงการณ์ยังได้ส่งสัญญาณเตือนไปยังกลุ่มหัวก้าวหน้าให้หยุดการกระทำในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งรอยเตอร์ระบุว่า เป็นการชี้เจาะจงไปที่เกรซ มูกาเบ และกลุ่ม G40 อย่างชัดเจน โดยก่อนหน้าทางกองทัพซิมบับเวเคยประกาศว่า จะไม่ยอมให้คนที่ไม่เคยร่วมสู้ในสงครามปลดปล่อยขึ้นมาเป็นผู้นำ ซึ่งทั้งเกรซ มูกาเบ และกลุ่ม G40 ซึ่งเป็นสมาชิกคนรุ่นใหม่ไม่ได้ร่วมในสงครามครั้งนี้
การที่ทางกองทัพออกแถลงการณ์เตือนในวันจันทร์ (13 พ.ย.) เป็นการตอบโต้การที่ประธานาธิบดีมูกาเบสั่งปลดรองประธานาธิบดีซิมบับเวของตัวเอง คือ เอ็มเมอร์สัน มนากากวา เพื่อเป็นการปูทางให้ภรรยาของตัวเองขึ้นมาทำหน้าที่แทน
ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ ชี้ว่า แค่ 24 ชม.หลังจากผู้นำกองทัพซิมบับเว พล.อ.ชีเวนกา ประกาศเตือน พร้อมจะเข้าแทรกแซงเพื่อยุติความโกลาหลในการไล่พันธมิตรทางการเมืองภายในพรรครัฐบาลให้หมดไป พบว่าหลังจากนั้นทางกองทัพส่งยานยนต์หุ้มเกราะ 6 คันขับผ่านเข้ามายังถนนบริเวณชานเมืองกรุงฮาราเร
สื่อออสเตรเลียชี้ว่า มีรายงานว่านายทหารซิมบับเวได้บอกตะโกนสั่งนักขับที่ผ่านไปมาในกรุงฮาราเรที่มืดมิดว่า “อย่าทำอะไรตลก ให้รีบไป”