รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - วันนี้ (26 ต.ค.) ประชาชนไทยจำนวนหลายแสนคนอยู่ร่วมเรียงรายสองข้างทางในกรุงเทพฯ เพื่อร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่เริ่มมาตั้งแต่ 06.00 น. ท่ามกลางถนนทุกสายที่ถูกประดับตกแต่งไปด้วยดอกดาวเรืองเหลืองอร่าม สื่อนอกชี้ทุกหัวใจอาลัยต่างถือดอกไม้จันทน์ถวายความอาลัย ซึ่งนอกจากปะรำพิธีใหญ่ทุ่งท้องพระเมรุ ยังมีซุ้มจุดถวายดอกไม้จันทร์ 113 แห่งทั่วกรุงเทพฯ
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (26 ต.ค.) ว่าประชาชนชาวไทยต่างอยู่ในชุดดำจับจองพื้นที่บริเวณข้างทาง และนอนรอข้ามคืนบนพลาสติกปูพื้นใกล้กับจุดพระบรมมหาราชวัง ต่างไม่หวั่นต่อสายฝนที่กระหน่ำมาเพื่อที่จะสามารถได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร หรือในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่จะเกิดขึ้นในคืนวันนี้ (26 ต.ค)
อ้างอิงจากสื่อไทยพบว่า จะมีการถวายพระเพลิงเกิดขึ้น 2 รอบ คือ ในเวลา 17.30 น. และ 22.00 น. โดยพบว่าการถวายพระเพลิงจริงนั้นจะเกิดขึ้นในเวลา 22.00 น.
“นี่เป็นการถวายไว้อาลัยครั้งสุดท้าย ข้าพเจ้าทั้งรักและคิดถึงพระองค์ท่านเป็นที่สุด มันเป็นการยากที่จะอธิบายออกมา” พิมพ์สุภัค สุทิน วัย 42 ปี ที่เป็นชาวน่าน เดินทางเข้ามายังกรุงเทพฯ เพื่อร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ โดยเฉพาะกล่าว
รอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่พระราชพิธีที่อยู่ในเครื่องแบบชุดสีน้ำเงินและสีส้มได้ทำการเชิญพระโกศทองใหญ่โดยพระยานมาศสามลำคาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ผ่านทางประตูเทวาภิรมย์ อันเป็นการเริ่มต้นของวันพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ มายังพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงเข้าร่วมนำพิธีสวดทางศาสนา ในขณะที่กองทหารได้อัญเชิญพระโกศทองใหญ่เคลื่อนขบวนออกไป พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันเสด็จนำสมาชิกเชื้อพระวงศ์ตามออกไปด้านหลังของขบวน
รอยเตอร์รายงานว่า โทรทัศน์ทุกช่องในไทยได้รายงานสดภาพเหตุการณ์พระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์นี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ให้ข้อมูลว่า มีประชาชนร่วม 110,000 คน เฝ้ารออยู่ใกล้บริเวณที่ถวายพระเพลิง ในขณะที่อีกราว 200,000 คน ต่างกระจายอยู่ตามส่วนต่างๆ ที่จัดไว้ในกรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยให้ข้อมูลต่อว่า พระราชพิธีถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียร์ติ ซึ่งเป็นภาพของพระราชพิธีที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยมีตัวเลขการจัดงานครั้งนี้ราว 90 ล้านดอลลาร์ ประชาชนผู้จงรักภักดีอีกคนในวัย 38 ปี ปิยะมาศ พฒโสโฟ (Piyamat Potsopho) ได้กล่าวให้ความเห็นว่า เธอรอเข้าร่วมงานพระราชพิธีในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาตั้งแต่คืนวันพุธ (25 ต.ค.)
“ดิฉันรู้สึกมีบุญที่ได้เกิดมาในรัชกาลที่ ๙” ปิยามาส กล่าวแสดงความรู้สึก
ส่วนชาวกรุงเทพฯ อีกรายในวัย 67 ปี สุจินดา สัมภาร์พ (Suchinda Samparp) กล่าวว่า “มันเป็นการยากที่จะบรรยายถึงความทุ่มเทที่ผมได้เห็น การที่ผู้คนออกมา และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยมีในหลวงในพระบรมโกศทรงเป็นแรงบรรดาลใจ”
สำหรับบรรยากาศทั่วไปในกรุงเทพฯ พบว่า มีฝนตกลงมาแต่ไม่ทำให้ประชาชนที่อยู่ในชุดไว้ทุกข์สีดำท้อใจ ต่างปักหลักในเต็นท์ และมีบางส่วนใช้ผ้าพลาสติกต่างเสื่อปูพื้นเพื่อให้ได้จุดที่ดีที่สุดในการร่วมชมพิธี
ในขณะเดียวกัน วันนี้ (26 ต.ค.) พบว่า บริษัทและร้านค้าต่างๆ ทั่วประเทศปิดทำการ รวมไปถึงร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลเว่น ที่จะมีการปิดตั้งแต่เวลา 14.00-24.00 น.ของวันนี้ (26 ต.ค.) เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถถวายความจงรักภักดีครั้งสุดท้ายได้
บีบีซีภาคภาษาไทย รายงานว่า ประชาชนไทยต่างร่วมใจถือดอกไม้จันทน์ไปตามจุดต่างๆ ที่จัดไว้เพื่อวางดอกไม้จันทน์ เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙
ทั้งนี้ สื่ออังกฤษชี้ว่า นอกจากจุดวางดอกไม้จันทน์ 113 แห่งทั่วกรุงเทพฯ แล้ว ยังมีการจัดพระเมรุมาศจำลอง 9 แห่งอีกด้วย ซึ่งตั้งกระจายอยู่ในจุดที่สำคัญต่างๆ เป็นต้นว่า ศาลาว่าการกรุงเทพฯ พระลานพระราชวังดุสิต เป็นต้น
และสำหรับในส่วนการรักษาความปลอดภัย พบว่า ทั้งในงานพระราชพิธีฯในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ มีการใช้กำลังตำรวจถึง 151,289 นาย โดยแบ่งเป็น ในงานราชพิธีฯ 58,212 นาย และทั่วประเทศ 93,077 นาย และสำหรับเจ้าหน้าที่ถวายความปลอดภัยริ้วขบวน และเส้นทางเสด็จฯ มีการใช้กำลัง 180 กองร้อย จำนวน 27,900 นาย นอกจากนี้ ทางตำรวจไทยได้จัดกำลังชุดสืบหาข่าวอีก 1,572 นาย
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ในงานพิธีถวายพระเพลิงฯ นี้ พบว่า มีสื่อต่างชาติจำนวนมากให้ความสนใจในการทำข่าว รวมไปถึงบีบีซี สื่ออังกฤษ เอเอฟพี และรอยเตอร์ เป็นต้น ในขณะที่ในส่วนของสื่อไทย เดอะการ์เดียน หนังสือพิมพ์อังกฤษ รายงานในวันนี้ (26) ว่า หนังสือพิมพ์ไทยต่างเสนอข่าวบนเว็บไซต์ของตัวเองในสีขาวดำเพื่อถวายความอาลับแด่ในหลวงรัฐกาลที่ ๙
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้แจกคู่มือข้อกำหนดต่างๆ ต่อนักข่าวในการรายงานเสนอข่าวช่วงเวลาดังกล่าว เป็นต้นว่า ห้ามนักข่าวชายที่มีผมยาว หรือสวมต่างหู หรือไว้หนวด และผมที่ไม่ใช่สีธรรมชาติก็ห้ามเช่นกัน
และพบว่าในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ วันพฤหัสบดี (26) ได้มีการจัดให้บริการโดยสารทางรถฟรีตลอดทั้งวันเพื่อบริการประชาชน และพบว่ามีร้านอาหารส่วนหนึ่งได้เปิดให้บริการแจกจ่ายอาหารฟรีให้แก่ประชาชนที่เข้าร่วมงาน และมีการจัดแสดงโขนหุ่นชัก และวงดนตรีออเคสตร้าจัดให้ความบรรเทิงในตลอดช่วงเวลากลางคืน 5 วัน
ในขณะที่บรรยากาศภายในกรุงเทพฯตลอดทั้งสัปดาห์ พบว่ามีการเปิดเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งเป็นที่รับรู้ว่าพระองค์ทรงโปรดเครื่องดนตรีแซกโซโฟนเป็นอย่างมาก
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ในบรรดาแขกเมืองที่สำคัญที่เข้าร่วมงานพระราชพิธีวันนี้ (26) ยังรวมไปถึงสมเด็จพระราชินีโซเฟียแห่งสเปน เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ค สหราชอาณาจักร สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน อดีตประธานาธิบดีเยอรมนี คริสเตียน วูล์ฟ(Christian Wulff) และนายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฯ ฮุน เซน เป็นต้น