xs
xsm
sm
md
lg

“อาเบะ” ยุบสภาจัดเลือกตั้งญี่ปุ่น 22ตุลา ฝ่ายค้านหนุน “ผู้ว่าฯหญิงโตเกียว” นำทัพสู้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น (ที่3จากซ้าย) และ ส.ส.ในพรรคของเขาพากันชูกำปั้นเปล่งคำมั่นสัญญาว่าจะต้องคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสภาล่างที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนหน้า  ณ สำนักงานใหญ่ของพรรคในกรุงโตเกียววันพฤหัสบดี (28 ก.ย.) </i>
เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ประกาศยุบสภาอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี (28 ก.ย.) เท่ากับเป็นการเริ่มต้นการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งระดับชาติครั้งใหม่ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคม โดยที่ผู้ว่าการหญิงของกรุงโตเกียว ยุริโกะ โคะอิเกะ กำลังมาแรงวิ่งฉิว เมื่อพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุดแถลงว่าจะปล่อยให้ผู้สมัครของตนลงเลือกตั้งคราวนี้ภายใต้ร่มธงพรรคใหม่ของเธอที่ชูแนวทางอนุรักษนิยมและการปฏิรูป

ด้วยการยุบสภาและจัดการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรก่อนกำหนด อาเบะ นักการเมืองอนุรักษนิยมที่ขึ้นเป็นนายกฯมาตั้งแต่ปี 2012 หวังว่า คะแนนนิยมของเขาที่กลับพลิกฟื้นคืนในระยะหลังๆ นี้จะช่วยให้พรรคร่วมรัฐบาลที่มี ลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี้ (แอลดีพี) ของเขาเองเป็นแกนนำ กวาดเสียงข้างมากได้อย่างไม่ยากเย็น แม้อาจไม่สามารถรักษาฐานะปัจจุบันซึ่งครองที่นั่งถึง 2 ใน 3 ในสภาเอาไว้ได้ก็ตาม

ทว่า การประกาศตั้งพรรคคิโบ โนะโต (พรรคแห่งความหวัง) อย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธ (27) ทำให้แนวโน้มการเลือกตั้งอาจไม่สะดวกง่ายดายอย่างที่อาเบะคิด หลังจากโคะอิเกะ อดีตสมาชิกพรรคแอลดีพีที่เป็นที่ชื่นชอบของประชาชน ประกาศเป็นผู้นำพรรคใหม่ด้วยตัวเอง

อาเบะกล่าวกับสมาชิกสภาล่างเมื่อวันพฤหัสบดี (28) หลังการประกาศยุบสภาว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด แต่มีเป้าหมายสูงสุดคือการปกป้องประเทศ การดำเนินชีวิตและความสงบสุขของชาวญี่ปุ่น

ระหว่างการประชุมวาระประกาศยุบสภา สมาชิกฝ่ายค้านจำนวนหนึ่งจับกลุ่มประท้วงโดยโจมตีว่า การยุบสภาทำให้เกิดสุญญากาศการเมืองในเวลาที่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีกำลังตึงเครียดหนัก

ขณะเดียวกัน ถึงแม้ โคะอิเกะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของสื่อ ถูกมองว่า เป็นความหวังสำหรับตัวเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่เจ้าตัวประกาศชัดเจนเมื่อวันพุธ ว่า จะไม่ลงเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากต้องการทุ่มเทให้กับการบริหารโตเกียวที่กำลังจะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกในปี 2020
<i>ผู้ว่าการกรุงโตเกียว  ยุริโกะ โคะอิเกะ หัวหน้าคิโบ โนะโต (พรรคแห่งความหวัง) ขณะแถลงข่าวการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่เอี่ยมพรรคนี้ ที่สโมสารผู้สื่อข่าวแห่งชาติญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว วันพฤหัสบดี (28 ก.ย.) </i>
กระนั้น ผลสำรวจความคิดเห็นของหนังสือพิมพ์ไมนิจิ พบว่า ผู้มีสิทธิออกเสียง 18% เตรียมลงคะแนนให้พรรคแห่งความหวัง เทียบกับ 29% สำหรับแอลดีพี

ส่วนโพลของหนังสือพิมพ์อาซาฮี ระบุว่า ผู้มีสิทธิออกเสียง 13% เล็งลงคะแนนให้พรรคของโคะอิเกะ และ 32% สำหรับแอลดีพี

ยูจิ ไซโตะ ผู้อำนวยการแผนกปริวรรตเงินตราของเครดีต์ อะกริโกล แบงก์ในโตเกียว เชื่อว่า อาเบะคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียที่นั่งในสภาบางส่วนให้พรรคแห่งความหวัง และแม้แนวโน้มที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ พรรคร่วมรัฐบาลยังคงครองเสียงข้างมากได้ แต่ถ้าเสียที่นั่งมากเกินไปก็อาจบั่นทอนความสามารถของรัฐบาลในการผลักดันนโยบายต่างๆ

แต่สำหรับ เคนสึเกะ ทาคายาสึ ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซเกะ กลับมองว่า พรรคแห่งความหวังอาจได้ที่นั่งในเขตโตเกียว ทว่า เคอิโกะอาจถูกมองว่า ทรยศต่อประชาชนที่ช่วยกันโหวตให้เธอได้เป็นผู้ว่าโตเกียว ด้วยการกระโจนลงเล่นการเมืองระดับประเทศ

ในส่วนอาเบะนั้น คะแนนนิยมพุ่งขึ้นจากประมาณ 30% ในเดือนกรกฎาคม เป็น 50% ในเวลานี้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากประชาชนเห็นด้วยในการใช้นโยบายแข็งกร้าวกับเกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ตาม มีเสียงวิจารณ์อึงมี่ ว่า อาเบะรีบร้อนจัดเลือกตั้งเพื่อหนีการซักฟอกของสภาเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวต่างๆ อาทิ การเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง

การแจ้งเกิดของพรรคของโคะอิเกะที่ชูนโยบายสนับสนุนการปฏิรูปและแนวทางอนุรักษนิยม ทำให้พรรคเดโมเครติก ปาร์ตี้ (ดีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักที่คะแนนนิยมหดเหลือแค่ตัวเลขหลักเดียว ตกที่นั่งลำบากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีแนวโน้มว่า อาจถูกพรรคแห่งความหวังดูดทั้งคะแนนและสมาชิกพรรคไป

ปรากฏว่า พวกผู้บริหารของดีพีแก้เกมโดยแถลงในเวลาต่อมาของวันพฤหัสบดี (28) ว่า พวกเขาจะไม่ส่งผู้สมัครของพรรคเองในการเลือกครั้งนี้ และจะอนุญาตให้บรรดาสมาชิกลงสมัครในนามพรรคแห่งความหวังได้

โคะอิเกะ ซึ่งปัจจุบันอายุ 65 ปี ได้ท้าทายแอลดีพีด้วยการลงสมัครเป็นผู้ว่าโตเกียวปีที่แล้ว และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มิหนำซ้ำ พรรคระดับท้องถิ่นใหม่ของเธอยังเอาชนะแอลดีพีในการเลือกตั้งสภาโตเกียวเมื่อเดือนกรกฎาคม

พรรคแห่งความหวังอาจมีนโยบายเป็นมิตรต่อธุรกิจเหมือนแอลดีพี แต่มีจุดยืนแตกต่างชัดเจนในสองประเด็น คือ ต้องการระงับแผนการขึ้นภาษีการขายจาก 8% เป็น 10% ในปี 2019 และการยกเลิกโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นนโยบายที่อาเบะผลักดันทั้งสองข้อ

โคะอิเกะ ยังเห็นว่า อาเบะเสี่ยงทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองจากการยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ในขณะที่เกิดวิกฤตเกาหลีเหนือ
กำลังโหลดความคิดเห็น