เอเอฟพี - พรรครีพับลิกันของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันพุธ(27ก.ย.) เปิดตัวแผนปฏิรูปกฎหมายภาษีของอเมริกา โดยหั่นภาษีนิติบุคคลลงอย่างมากและยกเลิกภาษีมรดก วางเดิมพันขั้นสูงในการกอบกู้วาระนโยบายของประธานาธิบดี
"นี่คือโอกาสดีที่สุดของเราในยุคหนึ่งๆที่จะปลดเปลื้องภาระภาษีแก่ชนชั้นกลางอย่างแท้จริง สร้างงานภายในประเทศและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน" พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวในถ้อยแถลงระหว่างเปิดเผนตัวปฏิรูปกฎหมายภาษี
"มันนานกว่า 31 ปีที่แล้วที่เราทำเรื่องนี้กันครั้งสุดท้าย ครอบครัวและธุรกิจเล็กๆที่ทำงานหนัก ไม่อาจรอคอยนานกว่านี้อีกแล้ว" เขากล่าว
ในแผนที่ปรับปรุงร่วมกับทำเนียบขาวของทรัมป์ ทางรีพับลิกันเสนอให้ปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงจาก 35 % เหลือ 20 % ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 22.5 % ของเหล่าประเทศพัฒนาแล้ว และลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดลงสู่ระดับ 35% จากเดิมที่ 39.6%
การยกเครื่องระบบภาษีเป็นเป้าหมายสูงสุดทางการเมืองสำหรับพรรครีพับลิกันมาช้านาน นอกจากนี้แล้วมันยังเป็นคำสัญญาหลักระหว่างหาเสียงของทรัมป์ และมันกลายเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น หลังความพยายามออกกฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพและสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก ต้องประสบปัญหาหยุดชะงัก
ส่วนตัวของทรัมป์เอง มีกำหนดขึ้นกล่าวปราศรัยโปรโมทแผนปฏิรูปกฎหมายภาษีของรีพับลิกัน ในอินดีแอนา ช่วงค่ำวันพุธ(27ก.ย.) แต่ก่อนหน้านั้น เขาให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ยืนยันว่าพวกผู้มุ่งมีอเมริกาจะไม่ได้ประโยชน์จากแผนภาษีของเขา และเขาจะไม่ต่อรองกรอบข้อเสนอ ให้ปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงต่ำกว่า 20 % "ไม่ ผมไม่ได้ประโยชน์ ผมคิดว่ามันเป็นประโยชน์กับคนร่ำรวยเล็กน้อยมาก" ทรัมป์กล่าว
ก่อนหน้านี้สื่อมวลชนสหรัฐฯรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวภายในทำเนียบขาว ระบุว่า ทรัมป์ มีแผนปฏิรูปภาษีด้วยการลดอัตราภาษีนิติบุคคลจาก 35% เหลือ 15% ตามที่หาเสียงไว้ อย่างไรก็ตามมันสร้างความไม่พอใจแก่สมาชิกรีพับลิกัน เนื่องจากมีแนวโน้มจะทำให้หนี้สาธารณะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยศูนย์ศึกษานโยบายภาษีเปิดเผยเมื่อปีก่อนว่า แผนการปรับลดภาษีเหลือ 15% ของทรัมป์ จะทำให้รายได้ภาครัฐลดลง 2.4 ล้านล้านดอลลาร์