เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ทำเนียบขาวเปิดแผนยกเครื่องภาษีครั้งใหญ่เมื่อวันพุธ (26 เม.ย.) โดยเสนอปรับลดภาษีบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลลงอย่างมาก ที่พวกเขาเรียกว่าเป็นหนึ่งในการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
ในขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีใกล้ครบ 100 วัน สมาชิกรีพับลิกันรายนี้กำลังหาทางทำตามคำสัญญาระหว่างหาเสียงเลือกตั้งในการยกเครื่องกฎหมายภาษีเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสหัฐฯ ภาคธุรกิจและครัวเรือน ในนั้นรวมถึงชาวอเมริกันชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงาน
“ภายใต้แผนของทรัมป์ เราจะมีการลดภาษีครั้งใหญ่สำหรับภาคธุรกิจและปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่” สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แถลงที่ทำเนียบขาว
ในแผนดังกล่าวจะมีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับ 15% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และปรับลดขั้นบันไดในการคิดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากปัจจุบัน 7 ขั้น เหลือเพียง 3 ขั้น โดยผู้มีรายได้ในขั้นสูงสุดจะเสียภาษีในอัตรา 35% ส่วนอีก 2 ขั้น เสียภาษีในอัตรา 25% และ 10% อย่างไรก็ดีไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของวงเงินรายได้ของผู้เสียภาษีในแต่ละขั้นบันได
นอกจากนี้จะมีการปรับลดภาษีเงินได้ของธุรกิจขนาดย่อม รวมถึงรายได้ส่วนบุคคลของเจ้าของธุรกิจ สู่ระดับ 15% จากปัจจุบันที่ระดับ 39.6%
แกรี โคห์น หัวหน้าคณะที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดี ซึ่งแถลงแผนดังกล่าวเคียงข้าง มนูชิน ระบุว่ามันเป็นการปฏิรูปภาษีครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่ปี 1986 และเป็นหนึ่งในการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ที่สุดหนหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกา
อย่างไรก็ตาม แผนปฏิรูปที่คาดหมายกันมานาน แต่ยังไม่ชัดเจนในรายละเอียด อาจเผชิญการต่อต้านอย่างแข็งขันในสภาคองเกรส ในนั้นรวมถึงสมาชิกรีพับลิกันบางส่วน ขณะที่พวก ส.ส.มีความเห็นแตกแยกกันอย่างมากเกี่ยวกับแนวโน้มที่มันอาจซ้ำเติมตัวเลขขาดดุลที่ปัจจุบันก็สูงลิ่วอยู่แล้ว
“การทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน มันคงไม่ใช่งานง่ายๆ เราจะถูกโจมตีจากฝ่ายซ้ายและเราจะถูกโจมตีจากฝ่ายขวา แน่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ผมไม่เคยเสี่ยงเดิมพันกับประธานาธิบดีมากเท่านี้มาก่อนเลย” โคห์นกล่าว
โคห์น ปฏิเสธกำหนดเส้นตายสำหรับการผลักดันแผนปฏิรูปผ่านสภาคองเกรส แต่บอกว่ารัฐบาลมีความตั้งใจเดินหน้าให้เร็วที่สุด เพื่อให้มันผ่านความเห็นชอบภายในสิ้นปีนี้
ระหว่างแถลงข่าวมนูชินไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับลดภาษีที่เรียกเก็บจากกำไรที่บริษัทข้ามชาติส่งกลับสู่สหรัฐฯ โดยกล่าวแต่เพียงว่า ทำเนียบขาวกำลังทำงานร่วมกับสภาคองเกรสในเรื่องดังกล่าว และจะอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ หลังจากมีข่าวก่อนหน้านี้ว่า จะมีการปรับลดภาษีดังกล่าวสู่ระดับ 10% จากปัจจุบันที่ระดับ 35%
พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยกย่องแปนปฏิรูปดังกล่าวว่าเป็นความคืบหน้า พร้อมบอกว่าทำเนียบขาวและสภาคองเกรสกำลังทำงานร่วมกันเพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงต่อแผนการปฏิรูปภาษี
นายมนูชินปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ว่า แผนการปรับลดภาษีดังกล่าวจะส่งผลให้สหรัฐขาดดุลงบประมาณมากขึ้นหรือไม่ โดยเขากล่าวแต่เพียงว่ารัฐบาลจะได้รับรายได้ที่ชดเชยมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ พร้อมชี้แจงว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่มีความประสงค์ที่จะเปิดเผยรายละเอียดการเสียภาษีของเขา