รอยเตอร์ - รัฐบาลคิวบาออกมาตำหนิประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ วานนี้ (19 ก.ย.) ว่าพูดจา “ไม่ให้เกียรติ รับไม่ได้ และก้าวก่าย” หลังถูก ทรัมป์ ด่ากลางเวทีสหประชาชาติว่าเป็นชาติที่ “ขี้โกงและบ่อนทำลาย” พร้อมย้ำชัดว่าคิวบาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปริศนาที่ทำให้นักการทูตอเมริกันในกรุงฮาวานาล้มป่วย
ถ้อยคำตอบโต้ที่แข็งกร้าวจากกระทรวงต่างประเทศคิวบามีขึ้น หลังจากคณะผู้แทนสหรัฐฯ และคิวบาได้พบปะกันที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อหารือความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งนับเป็นการเจรจาระดับสูงครั้งแรกตั้งแต่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อเดือน ม.ค. และเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ ทรัมป์ ขึ้นปาฐกถาต่อสมัชชาใหญ่ยูเอ็นที่นิวยอร์ก โดยกล่าวหาคิวบาว่าเป็นรัฐที่ “ทุจริตและบ่อนทำลาย” ซ้ำยังขู่จะคงนโยบายคว่ำบาตรการค้า จนกว่าคิวบาจะดำเนินการ “ปฏิรูปอย่างถึงรากถึงโคน”
คิวบาได้ “ประท้วงอย่างรุนแรง” ต่อคำพูดของผู้นำสายรีพับลิกันรายนี้ รวมถึงท่าทีที่เขามีต่อรัฐคอมมิวนิสต์กลางทะเลแคริบเบียน หลังจากเมื่อเดือน มิ.ย. ทรัมป์ได้สั่งแก้ไขข้อตกลงฟื้นความสัมพันธ์คิวบาที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้บุกเบิกเอาไว้ตั้งแต่ปี 2015
“คณะผู้แทนคิวบาได้ยื่นประท้วงอย่างรุนแรงต่อถ้อยคำที่ไม่รู้จักให้เกียรติ รับไม่ได้ และก้าวก่าย ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ในระหว่างที่คณะกรรมาธิการทวิภาคีสหรัฐฯ-คิวบากำลังประชุมหารือกันอยู่” กระทรวงการต่างประเทศคิวบาระบุ
ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-คิวบายิ่งทรุดหนักลง หลังจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาระบุเมื่อเดือนที่แล้วว่าเกิด “เหตุการณ์บางอย่าง” ที่ทำให้บุคลากรประจำสถานทูตในกรุงฮาวานาล้มป่วยไปตามๆ กัน
อาการป่วยที่ว่านี้มีตั้งแต่สูญเสียการได้ยิน เรื่อยไปจนถึงบาดเจ็บทางสมองอย่างอ่อนๆ โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 21 ราย และมีเจ้าหน้าที่แคนาดาบางคนที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ทางการคิวบายืนยันว่าไม่รู้ไม่เห็นเรื่องนี้ และแม้สหรัฐฯ จะไม่ได้กล่าวหาคิวบาตรงๆ แต่รัฐมนตรีต่างประเทศ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (17) ว่าอาจถึงขั้นต้อง “ปิดสถานทูต” ในฮาวานาเพื่อตอบโต้
“คิวบาไม่เคยก้าวล่วง และจะไม่กระทำการก้าวล่วงในลักษณะนี้เป็นอันขาด รวมถึงไม่เคยและจะไม่มีวันยอมให้กลุ่มบุคคลที่ 3 เข้ามาใช้ดินแดนคิวบาเพื่อจุดประสงค์นี้” กระทรวงการต่างประเทศคิวบาแถลง