รอยเตอร์ - กองทัพเกาหลีใต้เปิดฉากซ้อมยิงจรวดเช้าวันนี้ (4 ก.ย.) เพื่อตอบโต้ที่โสมแดงทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ขณะที่ตลาดการเงินทั่วโลกตอบสนองต่อภาวะตึงเครียดที่ไต่ระดับสูงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และเปียงยาง
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเตรียมเปิดประชุมด่วนในช่วงบ่ายวันนี้ (4) เพื่อหารือมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัฐคอมมิวนิสต์โดดเดี่ยว ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้ฝ่ายกลาโหมเข้าชี้แจงตัวเลือกปฏิบัติการทางทหารที่สหรัฐฯ มีอยู่
ประธานเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้แถลงว่า กองทัพอากาศได้จัดการซ้อมรบโดยใช้ทั้งจรวดพิสัยไกลชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศและขีปนาวุธ ซึ่งการซ้อมรบในวันนี้ (4) เป็นภารกิจของกองทัพโสมขาวฝ่ายเดียว แต่ได้มีการตระตรียมเพื่อฝึกซ้อมเพิ่มเติมร่วมกับทหารสหรัฐฯ ในอนาคต
เกาหลีเหนือยืนยันวานนี้ (3) ว่าแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ที่เกิดขึ้นบริเวณสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์เป็นผลมาจากการทดสอบ “ระเบิดไฮโดรเจน” ที่มีอานุภาพร้ายแรงกว่าครั้งก่อนๆ และสามารถติดตั้งบนขีปนาวุธได้ด้วย
หน่วยงานตรวจจับแผ่นดินไหวทั่วโลกยืนยันว่า แรงสั่นสะเทือนครั้งนี้เกิดจากฝีมือมนุษย์ ขณะที่ทางการเกาหลีใต้และญี่ปุ่นชี้ว่าระเบิดลูกนี้มีอานุภาพรุนแรงกว่าครั้งก่อนหน้าถึง 10 เท่าตัว
สหรัฐฯ ออกมาขู่ใช้กำลังทหารตอบโต้อย่างหนักหน่วง หากดินแดนของอเมริกาหรือชาติพันธมิตรถูกโสมแดงคุกคาม
“ภัยคุกคามใดๆ ก็ตามที่กระทำต่อสหรัฐฯ หรือดินแดนของเรา รวมถึงเกาะกวม และประเทศพันธมิตรของเรา จะถูกตอบโต้ด้วยปฏิบัติการทางทหารที่หนักหน่วง มีประสิทธิภาพ และครอบคลุม” เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวต่อสื่อมวลชนที่ด้านนอกทำเนียบขาววานนี้ (3) หลังเข้าพบ ทรัมป์ และทีมที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของเขา
“เราไม่ได้มุ่งหมายทำลายล้างประเทศที่ชื่อว่าเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก... แต่ก็อย่างที่ผมบอก เรามีตัวเลือกหลายทางที่จะทำเช่นนั้นได้”
นักการทูตหลายคนระบุว่า คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติอาจพิจารณาสั่งแบนผลิตภัณฑ์สิ่งทอและสายการบินแห่งชาติเกาหลีเหนือ, ระงับการจัดส่งน้ำมันให้แก่รัฐบาลและกองทัพโสมแดง, ห้ามมิให้ชาวเกาหลีเหนือไปทำงานในต่างแดน และขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ระดับสูงโสมแดงเพิ่มเติม เพื่อให้คนเหล่านี้ถูกอายัดทรัพย์สินและไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้
สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้แถลงเอาไว้ในวันเดียวกันว่า กระทรวงของเขากำลังจัดเตรียมมาตรการใหม่ๆ ซึ่งสามารถที่จะ “ตัดขาดเกาหลีเหนือในทางเศรษฐกิจ” ได้อย่างสิ้นเชิง
“ผมกำลังจะร่างแพกเกจลงโทษคว่ำบาตร และจะส่งไปเสนอต่อประธานาธิบดี เพื่อให้ท่านพิจารณาอย่างจริงจังว่า ใครก็ตามที่ต้องการทำการค้าหรือทำธุรกิจกับพวกเขา (เกาหลีเหนือ) แล้ว ก็จะถูกห้ามปรามไม่ให้ทำธุรกิจหรือทำการค้ากับเรา” มนูชิน ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ฟ็อกซ์นิวส์ซันเดย์”
ความตื่นตระหนกจากวิกฤตนิวเคลียร์เกาหลีเหนือส่งผลให้ราคาทองคำและค่าเงินเยนญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (4) เนื่องจากนักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย
เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นชาติเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของโลก จึงมักมีการคาดการณ์กันว่านักลงทุนชาวญี่ปุ่นจะโยกย้ายเงินทุนกลับเข้าประเทศในยามที่เกิดวิกฤต ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินเยนพุ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หลายคนยังกังขาว่าสินทรัพย์ญี่ปุ่นจะยังเป็นที่น่าดึงดูดใจอยู่อีกหรือไม่หากเกิดสงครามขึ้นในเอเชีย
คิม ดองยอน รัฐมนตรีกระทรวงคลังเกาหลีใต้ ยืนยันว่ากระทรวงจะออกนโยบายค้ำจุนตลาดเงิน หากมีแนวโน้มว่าการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือจะส่งผลกระทบแผ่ลามไปยังระบบเศรษฐกิจ
สำนักข่าวซินหวาของจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้เปิดการหารือคู่ขนานระหว่างการประชุมซัมมิตกลุ่ม BRICS ที่จีน โดยผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันว่าจะ “จัดการอย่างเหมาะสม” ต่อการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดของโสมแดง
ในฐานะพันธมิตรหลักของเกาหลีเหนือ รัฐบาลจีนได้แถลงประณามการทดสอบนิวเคลียร์ และเรียกร้องให้เปียงยางหยุดการกระทำ “ผิดๆ” เหล่านี้เสียที