เอเจนซีส์ - ศาลอินเดียพิจารณาคำร้องจากนักโบราณคดีของรัฐบาล โดยระบุว่า “ทัชมาฮาล” นั้นเป็นสุสานของมุสลิม ซึ่งจักรพรรดิโมกุลสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่มเหสีที่ตายไป นับเป็นการส่งสารอย่างเป็นทางการไปยังเหล่าผู้ที่อ้างว่าเป็นวัดฮินดู
หน่วยงานสำรวจทางโบราณคดีของอินเดีย (ASI) ซึ่งคอยปกป้องอนุสรณ์สถานที่สำคัญของชาติ ได้รับคำสั่งให้แสดงความเห็นตอบสนองต่อคำร้องของ 6 นักกฏหมายที่ระบุว่า พื้นที่มรดกโลกของยูเนสโกอย่างทัชมาฮาลนั้นเดิมทีเป็นวัดที่ชื่อว่า “เทโจ มหาลายา” ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพศิวะของฮินดู
คำร้องนั้นยังต้องการให้ชาวฮินดูได้รับอนุญาตให้เข้าไปสักการบูชาในทัชมาฮาล ซึ่งเดิมทีมีเพียงมุสลิมเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปสวดภาวนาในอนุสรณ์สถานจากศตวรรษที่ 17 แห่งนี้
นักโบราณคดีจาก ASI ได้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างนั้น โดยเรียกว่าเป็นเรื่องโคมลอยมั่วนิ่ม พร้อมทั้งขอให้ศาลปฏิเสธคำร้องดังกล่าวด้วย หลังจากนั้นอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้พิพากษา
คำกล่าวอ้างที่ว่า “ทัชมาฮาล” เป็นวัดฮินดูนั้นมีอยู่เรื่อยๆ นับตั้งแต่นักเขียนชาวอินเดียรายหนึ่งได้เขียนหนังสือที่ชื่อว่า Taj Mahal : the True Story ซึ่งเนื้อหาของหนังสือมีการอ้างว่าทัชมาฮาลนั้นถูกสร้างขึ้นก่อนที่ชาวมุสลิมจะรุกรานอินเดีย
ผู้ที่หนุนทฤษฎีนี้แย้งว่า ผู้รุกรานของจักรวรรดิโมกุลได้ทำลายหรือเปลี่ยนบรรดาวัดฮินดูให้กลายเป็นมัสยิด ซึ่งตามแนวคิดนั้น ทัชมาฮาลเดิมทีจะต้องเป็นสิ่งปลูกสร้างของฮินดูมาก่อน